กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก “แก้ว พงษ์ประยูร” นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย กำปั้นเหรียญเงินโอลิมปิก 2012


กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก “แก้ว พงษ์ประยูร” กำปั้นฮีโร่ขวัญใจชาวไทย เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2012 

กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก “จ่าสิบเอกแก้ว พงษ์ประยูร” หรือ “แก้ว พงษ์ประยูร” เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2523 บ้านเกิดอยู่ที่ ต.วังทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชรซึ่ง แก้วพงษ์ประยูร เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยเขาเริ่มต้นจากสังเวียนมวยไทยตั้งแต่อายุ 12 โดยใช้ชื่อว่า “เกตุแก้ว ว.ถิ่นทัพไทย” ผ่านการชกมาอย่าโชกโชนมากกว่า 100 ไฟต์ จนอายุได้ 17 ปี

จนกระทั่งไปเข้าตา “อาจารย์กามนิต นารีรักษ์” โค้ชมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ในขณะนั้นก็เห็นแววแก้ว เลยทาบทามให้มาชกมวยสากลสมัครเล่น ก่อนที่จะใช้เวลา 3 ปี “แก้วพงษ์ประยูร” ก็สามารถติดทีมชาติไทย และไปคว้าความสำเร็จมากมายหลายรายการ โดยเฉพาะในศึกซีเกมส์ ลงชกทั้งหมด 6 สมัย คว้าเหรียญทองได้ 4 ครั้ง เหรียญเงิน 1 ครั้ง และเหรียญทองแดง 1 ครั้ง

แต่ถึงแม้วาเขาจะวาดลวดลายในอาเซียนขนาดนี้ แต่ในระดับทวีป กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก “แก้วพงษ์ประยูร” ก็ยังดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปพิสูจน์ฝีมือในระดับทวีปหรือระดับโลกได้ โดยที่ในการแข่งขันคัดเลือกมวยเพื่อไปเอเชียนเกมส์ปี 2010 ที่กวางโจว ประเทศจีนทางแก้วพงษ์ประยูรต้องพ่ายคะแนนให้กับเพื่อนร่วมแคมป์ทีมชาติอย่าง “อำนาจ รื่นเริง”

ทำให้เจ้าตัวรับไม่ได้กับความผิดหวังนี้ ก่อนที่จะประกาศอย่างแน่วแน่ว่าจะอำลาวงการ พร้อมเก็บข้าวของออกจากแคมป์ทีมชาติ และตรงกลับไปยังที่บ้านเกิดที่พึ่งสบายใจที่สุด “ทุกคนในบ้านทราบข่าวของผม แต่ทุกคนไม่ถามอะไรเลยกับต้อนรับผมเป็นอย่างดี พอสบายใจแล้วแม่ก็เข้ามาพูดกับผมว่าให้ใจเย็นๆ

แล้วลองทบทวนอีกครั้งว่าที่ตัดสินใจไปถูกหรือไม่ คำพูดของแม่ในตอนนั้นเป็นสิ่งที่ฉุดตัวของแก้วให้กลับมาอยู่ในเส้นทางความฝันของตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับให้สัญญากับแม่และครอบครัวว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปให้ถึงโอลิมปิกเกมส์และคว้าเหรียญรางวัลมาเฉยชมให้ได้ กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก

กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก

ตั๋วเบิกทางของกำปั้นชาวไทยที่ต่างแดนของ กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก

“แก้วพงษ์ประยูร” เดินทางเข้ากรุงและเก็บตัวฝึกซ้อมอีกครั้งโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ โอลิมปิกเกมส์ 2012 และเขาก็สามารถคว้าตั๋วไปวาดลวดลายในกรุงลอนดอนได้จริงๆด้วยวัย 32 ปีในขณะนั้น ทำให้โอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกของนักชกกำแพงเพชรรายนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกัน ด้วยความที่ไม่มีอะไรจะเสีย แก้วเดินหน้าโชว์ฟอร์มชนะใจคนดูโค่นคู่แข่งคนแล้วคนเล่าจนเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ที่เป็นการพบกับ ซู ชิ หมิง แชมป์เก่าจากจีน

ก่อนการชกนั้นนักชกโนเนมจากไทย ในสายตาคนทั้งโลก ถือว่าเป็นรองยอดนักชกจากจีนหลายขุม แต่เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น แก้วก็ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าเขานี่แหละคือคนที่จะมาล้มแชมป์ และกลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ แก้วพงษ์ประยูร

แต่นอกจากฝีมือที่แก้วมี นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก คงยังไม่เพียงพอเพราะการตัดสินของกรรมการ ดูจะไม่เข้าทางนักชกขวัญใจชาวไทยรายนี้สักเท่าไหร่ ซึ่งในวันนั้นทางแก้วก็ชกดีจริง แต่ขณะเดียวกันแก้วก็โดนเตือนโดนตัดแต้มเป็นว่าเล่นก่อนที่ครบ 3 ยก ผลที่ออกมาต่างก็เป็นที่ค้านสายตาแฟนมวย

กรรมการชูมือให้ ซู ชิ หมิง ชนะไปด้วยคะแนน 13-10 ทำเอานักชกชาวไทยถึงกับเข่าอ่อนและร้องให้ออกมาด้วยความเจ็บใจ “เสียใจมากครับคำตัดสิน ยก 5 มาตัดคะแนนผม แต่ผมไม่ได้ทำความผิดอะไรตัดผมทำไม แล้วก้มต่ำกดผมตลอดแต่เขาไม่เคยผิดไม่เคยว่าตุกติกเยอะมาก กรรมการช่วยทุกอย่าง

ทุกคนก็เห็นอยู่ว่าผมแพ้หรือชนะ ฝากขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคนด้วย ผมเอาเหรียญทองกลับไปให้พี่น้องชาวไทยไม่ได้ ผมพยายามสุดความสามารถของผมแล้ว กราบขอบพระคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนผม ผมขอโทษด้วยครับ” นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก กล่าว

กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก

ประวัติของ “แก้ว พงษ์ประยูร” นักชกมวยสากลชาวไทย

“แก้วพงษ์ประยูร” ฮีโร่โอลิมปิก นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก เขาเกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2523 บ้านเกิดอยู่ที่ ต.วังทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งแก้วพงษ์ประยูรเป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 6 คน สำหรับการศึกษาของแก้วพงษ์ประยูรนั้น จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต

และรับราชการเป็นทหารบกสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ประจำกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจุบันสมรสกับนางธาราทิพย์ พงษ์ประยูร มีบุตรสาว 1 คนคือ น้องแก้มใส ชีวิตของ “แก้วพงษ์ประยูร” เริ่มก้าวเข้าสู่การชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 12 ปี

แต่หันมาชกมวยสากลเมื่อตอนอายุ 17 ปี และเพียงแค่ 3 ปีในการชกมวยสากล เขาก็ติดทีมชาติ หลังจากนั้นแก้วก็ได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันอีกหลายรายการ โดยเคยเข้าแข่งขันซีเกมส์มาถึง 6 สมัย คว้าเหรียญทองมาได้ 4 ครั้ง, เหรียญเงิน 1 ครั้ง และเหรียญทองแดง 1 ครั้ง

แต่ในการแข่งขันในระดับโอลิมปิกนั้น ต้องบอกว่าครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของ เแก้วซึ่งเขาสามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยลงสู้ศึกลอนดอนเกมส์ได้ หลังจากสามารถเอาชนะ ซาลมาน อาลีซาดา นักมวยชาวอาเซอร์ไบจัน ที่ประเทศอาเซอร์ไบจัน จัดหนักซัดเต็มไป 23-8 หมัด

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2554 แน่นอนว่าแก้วพงษ์ประยูรตั้งใจกับการขึ้นสังเวียนโอลิมปิกครั้งนี้มาก เพราะรู้ดีว่าหากพลาดจะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวในครั้งหน้า เขาจึงหมั่นฝึกซ้อมอย่างเคร่งครัด และด้วยฝีไม้ลายมือ ลีลาที่คล่องตัว และเชิงมวยค่อนข้างจะได้เปรียบคู่ต่อสู้ ทำให้ชาวไทยส่งแรงใจเชียร์อย่างสุดกำลัง เพราะมองว่า แก้วคือตัวเต็งและความหวังที่จะคว้าเหรียญทองมาให้ชาวไทยทั้งประเทศได้ชื่นชม

กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก

นักชกเจ้าของตำนานที่ยิ่งใหญ่ ของกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2012

นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อกลางปี พ.ศ. 2555 ฮีโร่โอลิมปิก “แก้วพงษ์ประยูร” ถือเป็นว่านักกีฬาไทยคนแรกที่ได้สิทธิ์ไปแข่งขัน จากการเอาชนะ ซาลมาน อาลีซาดา นักมวยชาวอาเซอร์ไบจาน ในรอบ 16 คนสุดท้าย ที่ประเทศอาเซอร์ไบจานไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก

ในรายการ นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก และถือว่าเป็นการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกของแก้วด้วย แก้วเป็นนักมวยและนักกีฬาไทยคนสุดท้ายที่มีสิทธิ์ลุ้นเหรียญทองในโอลิมปิกดังกล่าว ด้วยเป็นนักกีฬามวยสากลเพียงคนเดียวที่เข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศกับโจว ซื่อหมิง นักมวยชาวจีน

ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญทองในรุ่นนี้เมื่อโอลิมปิกครั้งที่แล้ว ปรากฏว่าแก้วเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไป ซึ่งทำให้พฤติการณ์บางประการในการแข่งขันก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ อย่างเช่นมีการเตือนแก้วว่าทำผิดกติกาครั้งหนึ่งโดยไม่ระบุว่าผิดอย่างไร แต่ให้โจวทำผิดกติกาหลายครั้งแล้วจึ่งเตือนเพียงครั้งเดียว

อีกทั้งโจวยังได้คะแนนมากเกินกว่าที่ควรจะได้โดยไม่มีที่มาที่ไป นอกจากนี้ยังปรากฏว่า โจวไม่ได้พยายามชกในยกสุดท้าย แต่อาศัยชั้นเชิงถ่วงเวลาเท่านั้น ฝ่ายไทยจึงประท้วงผลการแข่งขัน แต่ไม่สำเร็จเพราะว่า 5 นาทีหลังจากประกาศผลการแข่งขัน ต้องห้ามตามกฎบัตรโอลิมปิกขณะที่ อู๋ จิงกั๋ว ประธานสมาคมมวยระหว่างประเทศ ซึ่งเห็นว่าการตัดสินเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรมแล้ว

กำปั้นฮีโร่โอลิมปิก

หลังจากแขวนนวมของกำปั้นชาวไทย กับการเป็นครูสอนศิลปะมวยไทยให้ทหารใหม่

แก้วพงษ์ประยูร นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก 2012 พร้อมด้วย ส.ท. อาทร นนทโคตร (รุ่งเพชร เพชรเจริญ) เจ้าของแชมป์ปูนเสือ และ พลฯ วรรธนะ เนียมสุวรรณ หรือ ยอดวันดี ส.วรโชติ นักมวยไทยฝีมือดี ได้ร่วมกันฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 2/65 ตามนโยบายของกองทัพบกที่ต้องการให้ทหารใหม่มีสุขภาพแข็งแรง และเรียนรู้ศิลปะการป้องกันมวยไทย นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก

โดยในปลายเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 มีข่าวปรากฏว่า แก้ว พงษ์ประยูร ตัดสินใจที่จะกลับมาชกมวยอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การได้เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล โดยเริ่มต้นจากการคัดตัวในรายการชิงแชมป์เอเชีย

ซึ่งในครั้งนี้การกลับมาชกครั้งนี้ แก้วได้ยอมรับว่า อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเดิมเพราะกติการชกได้เปลี่ยนไป ฮีโร่โอลิมปิก แต่ในการแข่งขันซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ แก้วได้ถูกตัดชื่อออกจากทีมเทรนเนอร์ทีมชาติไทยในครั้งนี้ และหลังการแข่งขันซีเกมส์ แก้วได้รับการติดต่อจากสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยให้กลับไปเป็นผู้ช่วยเทรนเนอร์อีกครั้ง นักมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก

ข่าวสารเพิ่มเติม : ดูบอล