Tyson Fury “ไทสัน ฟิวรี” เจ้าของฉายา “ยิปซี คิง” นักชกแชมป์โลก กำปั้นไร้พ่ายรุ่นยักษ์ชาวอังกฤษ

Tyson Fury “ไทสัน ฟิวรี” นักมวยสากลมืออาชีพ ที่มีสายเลือดนักต่อสู่ที่แท้จริง เพราะว่าตอนที่เขายังเด็ก เขาโดนแกล้งตลอด ซึ่งมันยิ่งทำให้เขา ต้องหันมาจริงจังกับการเข้ายิม ฝึกทักษะ ดูแลตัวเองและกินอาหารอย่างถูกหลัก จนกระทั่งตอนอายุ 18 เขาสูงขึ้นถึง 2 เมตร และการเข้ายิม ทำให้ร่างกายของเขา ดูแข็งแรงและสมส่วน “Tyson Fury” ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อม เพื่อที่จะไปคัดตัวเป็นตัวแทน ของรุ่นซูเปอร์เฮฟวีเวต ของสหราชอาณาจักร ในโอลิมปิกปี 2008

แต่ว่าเขาไม่สามารถผ่านการทดสอบได้ ทำให้เขาหันไปเลือกที่จะเป็น นักมวยมืออาชีพ แบบเต็มตัว นักชกแชมป์โลกกำปั้นไร้พ่าย “Tyson Fury” เกิดที่วีเทนชอว์ ในเมืองแมนเชสเตอร์ โดยเป็น 1 ในลูก 4 คนที่รอดชีวิตจากการคลอด หลังจากแม่ของเขา ตั้งครรภ์ทั้งหมด 14 ครั้ง

และทางไทสันเอง ก็คลอดก่อนกำหนดถึง 3 เดือน และมีน้ำหนักแรกเกิดเพียง 1 ปอนด์ หรือ 450 กรัมเท่านั้น ซึ่งทางแพทย์เปิดเผยกับ “จอห์น ฟิวรี่” พ่อของเขาว่า โอกาสรอดชีวิตนั้นมีต่ำมาก แต่เจ้าตัวก็รอดมาได้ ทำให้คุณพ่อตั้งชื่อตาม “ไมค์ ไทสัน” ตำนานแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท ชาวอเมริกัน

เส้นทางของนักมวย Tyson Fury “ไทสัน ฟิวรี” นักชกสากลระดับโลก

นักมวยสากลระดับโลก ที่มักจะเอาชนะแต้มต่อมาได้อยู่เสมอ เรียกได้ว่าเขานั้น เป็นนักสู้มาตั้งแต่เกิดจริงๆ “Tyson Fury” เขาเริ่มต่อยมวยตอนอายุ 10 ขวบ โดยได้รับการฝึกฝนที่ถูกต้อง จากคุณพ่อซึ่งเป็น อดีตนักมวยอาชีพ ขณะที่ฟิวรีในวัย 11 ปี ฟิวรี่ ก็ได้ออกจากโรงเรียน เพื่อมาช่วยพ่อกับพี่ชาย

หาเงินเลี้ยงดูครอบครัว  จากการรับจ้างทำถนนลาดยาง และเวลาผ่านไป ในปี 2015 “Tyson Fury” สามารถเอาชนะ Wladimir Klitschko นักมวยชาวยูเครน โดยการแข่งขันจัดที่ Esprit Arena ในเมือง Düsseldorf ประเทศเยอรมนี ฟิวรี่ ใช้ทั้งความเร็วบวกกับทักษะ และช่วงชกที่ยาวกว่า

สามารถเอาชนะ Klitschko ไปได้หลังชกครบ 12 ยก หลังจากนั้น ฟิวรี่ ก็กลายเป็น นักมวยสากลระดับโลก เพราะหลังจากการชนะ Wladimir Klitschko ก็ทำให้เขา ชิงเข็มขัดแชมป์มาทีเดียวถึง 5 เส้น ทั้ง WBA (Super), IBF, WBO, IBO และ The Ring

พร้อมสถาปนาตนเป็น “ราชายิปซี” อย่างภาคภูมิใจ Tyson Fury เป็นนักมวยสากล นักมวยสากลระดับโลก มีสถิติการขึ้นชก ในระดับมืออาชีพที่ไม่ธรรมดา ซึ่งเขาขึ้นชกทั้งหมด 31 ไฟต์ ชนะ 9 ครั้ง ชนะน็อก 21 ครั้ง และเสมอ 2 ครั้ง ถือได้ว่าเขาเป็น นักมวยที่เก่งที่สุดในโลก อีกคนหนึ่งเลย นักชกแชมป์โลกกำปั้นไร้พ่าย นักมวยสากลระดับโลก

 “ไทสัน ฟิวรี” เคยมีชีวิตที่เคยตกต่ำ แต่สามารถกลับขึ้นนั่งบัลลังก์ได้อีกครั้ง

เส้นทางความสำเร็จทั้งหมดของฟิวรี่ นักชกแชมป์โลกกำปั้นไร้พ่าย หายวับไปในเวลาเพียงไม่ถึง 2 ปี จากปัญหาทั้งภายในและภายนอก เจ้าตัวถูกตรวจพบ ว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งฟิวรี่ยอมรับว่าใช้เพื่อ รักษาอาการซึมเศร้า ที่เป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บเรื้อรัง โดยแม้ทางฟิวรี่ จะตัดสินใจสละเข็มขัด รวมทั้งถูกยึดแชมป์ นักมวยสากลระดับโลก

แต่ก็ยังถูกบอร์ดบริหาร ของสมาคมมวยสหราชอาณาจักร ลงโทษระงับใบอนุญาตชกมวยอาชีพ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็สู้คดีในเรื่องนี้นานนับปี ขณะที่ฟิวรี่มองว่า ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม หลังผ่านการสู้คดีมาอย่างยืดเยื้อ ทั้ง 2 ฝ่ายก็ตกลงกันได้สำเร็จ ทำให้ฟิวรี่ได้กลับมา ขึ้นสังเวียนอีกครั้งในปี 2018

พร้อมกับคำปรามาส จากหลายฝ่าย แต่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ฟิวรี่ปิดปากพวกนักวิจารณ์ได้แบบสนิท โดยเฉพาะในแมตช์ชิงแชมป์สภามวยโลก กับ ดิออนเทย์ ไวล์เดอร์ แชมป์ไร้พ่ายชาวอเมริกัน ซึ่งผลออกมาเสมอกันแบบเสียงแตก ถ้อยคำดูแคลนก่อนหน้านั้น กลายเป็นจุดที่ทำให้ฟิวรี่ กระชากเข็มขัดแชมป์

จากไวล์เดอร์ให้ได้ในการรีแมตช์ และในการเจอกันครั้งที่ 2 ที่เป็นไฟต์ล้างตาของทั้งคู่ ฟิวรี่ก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือ หนึ่งในนักชกที่ดีที่สุด หลังเอาชนะTKO ไวล์เดอร์ในยก 7 ทำให้ฟิวรี่สามารถ คว้าแชมป์สถาบันหลักเส้นสุดท้าย ที่ยังไม่เคยได้มาก่อนในอาชีพ เรียกว่าเขาเกิดมาเพื่อสู้จริงๆ นักชกแชมป์โลกกำปั้นไร้พ่าย

ยอดมวยที่คว้าแชมป์รุ่นเฮฟวี่เวตครบทุกสถาบัน แต่ไม่ถูกเลือกไปแข่งโอลิมปิก?

ในช่วงชีวิตการเป็น นักชกสมัครเล่นของฟิวรี่ นักมวยสากลระดับโลก นักชกแชมป์โลกกำปั้นไร้พ่าย เคยขึ้นสังเวียนทั้งในฐานะ ตัวแทนของไอร์แลนด์ และอังกฤษ เนื่องจากเขาเกิดในเมือง แมนเชสเตอร์ และอยู่ในครอบครัวร่อนเร่ชาวไอริช ซึ่งเป็นที่มาของฉายา “Gypsy King” นักชกแชมป์โลกกำปั้นไร้พ่าย

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ฟิวรี่จะทำผลงาน ได้น่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่การคว้าเหรียญทองแดง เวิลด์ จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ ปี 2006, เหรียญทอง อียู จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ ปี 2007 ตามด้วยเหรียญเงินใน ยูโรเปี้ยน จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพ ปีเดียวกัน แต่เขากลับก็ไม่ถูกเลือก ให้เป็นตัวแทนของชาติบ้านเกิด

เพื่อไปลุยศึกโอลิมปิกปี 2008 เรื่องนี้นับว่าเป็นกระแสฮือฮาเป็นอย่างมาก เนื่องจากในขณะนั้น ฟิวรี่เป็นมือวางอันดับ 3 ของโลกสำหรับรุ่นจูเนียร์ เป็นรองเพียงแค่ มักซิม บาบานิน และ อังเดร โวลคอฟ 2 นักชกจากรัสเซีย ดังนั้นฟิวรี่จึงน่าจะได้รับเลือกจ ากโควต้าที่แต่ละชาติ ส่งนักชกได้เพียงรายเดียว

แต่กลับเป็น เดวิด ไพรซ์ เด็กปั้นของสมาคมมวยสากลสมัครเล่น ของสหราชอาณาจักร ที่ได้ไปลุยกรุงปักกิ่ง ซึ่งฟิวรี่เชื่อว่ามีเรื่องของการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องถึงแม้ตัวเอง จะเคยแพ้คะแนนไพรซ์ ในศึกชิงแชมป์แห่งชาติปี 2006 ก็ตาม นักมวยสากลระดับโลก

ยอดมวยไร้พ่าย แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท มวยที่มีรายได้สูงเป็นอันดับสองของโลก

“Tyson Fury”  ในฐานะนักมวยอาชีพ เขากลับทำได้ดีที่สุด เพียงแชมป์ระดับทวีป และไม่เคยได้โอกาส ชิงแชมป์โลกแม้แต่ไฟต์เดียว เหมือนกับ อั๊ดลี่ย์ แฮร์ริสัน เจ้าของเหรียญทองปี 2000 ดังนั้นเมื่อเราตัดสินใจอะไรไปแล้ว ต้องเชื่อมั่นกับสิ่งนั้น และทุ่มเทให้กับมัน อย่างสุดความสามารถ โดยไม่มานึกเสียใจ เมื่อมองย้อนกลับไป นักชกแชมป์โลกกำปั้นไร้พ่าย

ข่าวสารเพิ่มเติม : นักสู้สายแบ๊วแห่งบ้านวันแชมเปียนชิพ หนังออนไลน์