Rey Mysterio นักมวยปล้ำ WWE กับหน้ากากและรอยสัก อันเป็นเอกลักษณ์


Rey Mysterio “เรย์ มิสเตริโอ” นักมวยปล้ำอาชีพ ของสมาคมมวยปล้ำระดับโลกWWE 

Rey Mysterio “เรย์ มิสเตริโอ” ชื่อจริงของเขาคือ ออสการ์ กูเตียร์เรซ (Óscar Gutiérrez) ส่วนชื่อ “เรย์ มิสเตริโอ” เป็นนามแฝงของ นักมวยปล้ำชาวเม็กซิโกรายหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในยุค 70’s จากการปล้ำ ในสมาคมท้องถิ่น ที่เมืองติฮัวนา ประเทศเม็กซิโก โดยชื่อ เรย์ มิสเตริโอ มีความหมายว่า ราชาผู้ลึกลับ เรย์เขาเป็น นักมวยปล้ำอาชีพ ชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน เขาเป็นนักมวยปล้ำตัวเล็ก ที่สามารถเอาชนะ นักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่า

ได้ด้วยท่าลีลา การปล้ำสไตล์เม็กซิกัน มีท่าทางผาดโผน ได้หลายรูปแบบ ทำเอาคนดูได้ลุ้นไปตามๆกัน เขาคือนักมวยปล้ำ ที่มีพรสวรรค์สูง มากที่สุดคนหนึ่ง เท่าที่โลกนี้เคยรู้จัก แม้จะสูงเพียง 160 เซนติเมตร และหนักไม่ถึง 65 กิโลกรัม เขาควรจะสร้างชื่อเสียง ให้โลกรู้จักได้ตั้งแต่ตอนนั้น

หากว่าไม่ติดว่ากฎหมาย ของสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถให้ใบอนุญาตทำงาน แก่เด็กอายุ 15 ปี แต่เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ปัญหา เขามีคุณลุงเป็น ตำนานนักมวยปล้ำ ในเมืองติฮัวนา และแม้จะต้องเริ่มต้น ที่ค่ายมวยปล้ำท้องถิ่น ของเม็กซิโก ด้วยชื่อ เรย์ มิสเตริโอ มันคงไม่ยาก ที่เขาจะสร้างชื่อเสียง

จนก้าวขึ้นสู่ระดับสูงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเป็น เรย์ มิสเตริโอ ที่รู้จักกันในปัจจุบัน นักมวยปล้ำรายนี้เขาใช้ชื่อว่า “กิ้งก่าเขียว” หรือ “ฮัมมิงเบิร์ด” ในช่วงเริ่มต้นของอาชีพ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นหลาน ของนักมวยปล้ำชื่อดัง และต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อรับค่าจ้างไม่ถึง 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับนักมวยปล้ำหน้าใหม่ สถานการณ์ปากกัดตีนถีบ ผลักดันให้เจ้ากิ้งก่าเขียว พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว มาจนกระทั่งปี 1991 หลังที่เขาได้ก้าวเข้าสู่ เส้นทางนักมวยปล้ำอาชีพได้ 2 ปี คุณลุงของเขาก็ใจอ่อน ยอมมอบชื่อ เรย์ มิสเตริโอ ให้แก่หลานชาย โลกจึงได้รู้จักกับ เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์ นักมวยปล้ำรุ่นใหม่ ที่จะสานต่อตำนาน ของราชาผู้ลึกลับ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

Rey Mysterio

Rey Mysterio นักมวยปล้ำผู้เผยแพร่ การปล้ำฉบับแม็กซิกัน 

ในช่วงปี 1992 เรย์ มิสเตริโอ จูเนียร์ ได้ก้าวเข้ามาสู่สมาคมใหญ่ ในประเทศเม็กซิโกอย่าง AAA (Asistencia Asesoría y Administración) แต่ตัวเขาเองไม่ได้รับการผลักดันมากนัก โดยที่ยังคงปล้ำอยู่ในระดับกลาง ยังไม่มีผลงานอะไรที่โดดเด่น และแล้วก็มาถึงไฮไลต์ ในอาชีพของ เรย์ มิสเตริโอ

และช่วงนั้นคือการปล้ำในสมาคม World Wrestling Association สมาคมท้องถิ่นของเมืองติฮัวนา ที่ เรย์ มิสเตริโอ เปิดศึกกับนักมวยปล้ำร่วมค่าย ไซโคซิส ซึ่งทั้งสองได้สร้าง แมตช์มวยปล้ำ ที่สุดร้อนแรง แต่โชคร้ายที่มัน ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ จึงทำให้ชื่อเสียงของ เรย์ มิสเตริโอ

จึงไม่เคยไปไกลกว่า เมืองแถบชายแดนของเม็กซิโก แต่โชคชะตาของ เรย์ มิสเตริโอ ก็มาถึงจุดเปลี่ยนในปี 1995 เมื่อ พอล เฮย์แมน เจ้าของค่าย ECW (Extreme Championship Wrestling) ค่ายมวยปล้ำอินดี้มาแรง ของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ได้เห็นเทปการปล้ำระหว่าง เรย์ และ ไซโคซิส

ทันทีที่ดูจบ พอล เฮย์แมน ไม่รีรอที่จะโทรหาใครสักคน เพื่อนำนักมวยปล้ำทั้งสองรายนั้นเข้ามาสู่ค่าย พอล เฮย์แมน ไม่รอช้าดึงตัว เรย์ มิสเตริโอ และ ไซโคซิส จากเม็กซิโก สู่เมืองฟิลาเดลเฟีย บ้านของ ECW พอล เฮย์แมน จับทั้งสองมาเจอกันตั้งแต่แมตช์แรก และทำในสิ่งที่เด็กทั้งสอง

ต้องตะลึงจนพูดไม่ออก พวกเขานำศาตร์ ลูชา ลิเบร มวยปล้ำจากเม็กซิโก ที่ชาวอเมริกันไม่เคยเห็น เข้ามาผสมผสานกับ สไตล์ฮาร์ดคอร์ของ ECW ได้อย่างลงตัว ทุกครั้งที่ทั้งคู่พบกัน เสียงร้องเชียร์ของแฟนๆใน ECW Arena จะดังก้องไปทั่ว เพื่อตอบรับมวยปล้ำสุดเร้าใจ ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต

ความสำเร็จของ เรย์ มิสเตริโอ ใน ECW ทำให้เขาได้รับการยกย่องจนถึงทุกวันนี้ ในฐานะนักมวยปล้ำที่เผยแพร่สไตล์ ลูชา ลิเบร ที่เคยถูกจำกัดอยู่ในเม็กซิโก ให้กระจายตัวสู่ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่ตัว เรย์ มิสเตริโอ เองจะกลายเป็นผู้เปิดประตู นำมวยปล้ำสไตล์ ลูชา ลิเบร ให้แฟนมวยปล้ำทั่วโลกได้รู้จัก ผ่านผลงานของใน WWE จนได้รับฉายา “ราชาแห่ง ลูชา ลิเบร” มาจนถึงทุกวันนี้

“เรย์ มิสเตริโอ” แชมป์นักมวยปล้ำ WWE พลังสุดยิ่งใหญ่ของนักมวยปล้ำตัวเล็ก

Rey Mysterio

พลังของคนตัวเล็ก ในวงการมวยปล้ำนั้น ถ้าพูดถึงคำว่า แชมป์เฮฟวี่เวท คนส่วนใหญ่ก็มักที่จะ จำกัดความถึงนักมวยปล้ำร่างยักษ์ทันที เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มักมีเพียง นักมวยปล้ำเฮฟวี่เวท จริงๆเท่านั้นที่จะ สามารถคว้าแชมป์ระดับสูงแบบนี้ได้ แม้จะมีคนตัวเล็กอยู่ประปราย แต่โดยปกติแล้วพวกเขา

จะถูกจำกัดอยู่แต่ในรุ่นจูเนียร์ และเข็มขัดครุยเซอร์เวท ซึ่งถือเป็นเส้นรอง ที่เทียบคุณค่าไม่ได้เลย ความคาดหวังในเรื่องนี้ ไม่ต่างจากยุคที่คน ต่างได้มีการคาดหวัง ถึงการมีแชมป์โลกผิวสี หรือการมีแมตช์มวยปล้ำหญิง ที่ผู้คนยอมรับ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ จำเป็นต้องมี คนแรก ที่ช่วยเปิดทาง

ให้คนรุ่นหลังก้าวตามไปได้เสมอ ซึ่งหากเทียบกันแล้ว การเห็นคนตัวเล็กเป็น แชมป์เฮฟวี่เวท ถือว่าเป็นเรื่องยากที่สุด เนื่องจากเป็นปัญหา ทางด้านกายภาพ การเป็นแชมป์นั้น ไม่ใช่เพียงแค่เขียนบทและจับยัดไปเท่านั้น แต่ต้องทำให้เหมาะสมเสียก่อน เพราะเมื่อมีแชมป์เป็นคนตัวเล็ก คำถามที่จะตามมาทันที

ก็คือทำไมคนๆนี้ ถึงเหมาะที่จะเป็นแชมป์ มากกว่าคนตัวใหญ่ ที่มีอยู่เต็มสมาคม ดังนั้นหากตัวนักมวยปล้ำ พิสูจน์ตัวเองว่าเหนือกว่าคนอื่นไม่ได้ ก็จะถูกต่อต้านและ ไม่สามารถเป็นใบเบิกทาง ให้คนรุ่นหลังได้อย่างที่ตั้งใจ แต่ทุกสิ่งเปลี่ยนไปในปี 2006 เมื่อ “Rey Mysterio”

ก้าวมาเป็นแชมป์ WWE World Heavyweight ด้วยการเอาชนะ Randy Orton และ Kurt Angle ในศึก WrestleMania 22 มันเป็นคืนที่เขาสามารถ พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า ทุกสิ่งสามารถเป็นไปได้ และจากนี้คนจะมองนักมวยปล้ำตัวเล็ก ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาคือ นักมวยปล้ำหน้ากากหมายเลขหนึ่งของ WWE

Rey Mysterio

เวลาล่วงเลยผ่านจากวันแรกที่ “เรย์ มิสเตริโอ” ก้าวสู่สหรัฐอเมริกา มายาวนานกว่า 20 ปี ทุกวันนี้เขาก็ยังคงเป็น นักมวยปล้ำระดับสูง ของ WWE และยังคงได้รับความนิยมจาก แฟนมวยปล้ำมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็นแฟนมวยปล้ำรุ่นเก่า ที่ติดตามมายาวนาน หรือแฟนมวยปล้ำรุ่นใหม่ที่เพิ่งรู้จัก

เรย์ มิสเตอริโอ ในฐานะตำนาน ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการ ทุกวันนี้ เรย์ มิสเตริโอ ยังคงเป็นนักมวยปล้ำหน้ากาก หมายเลขหนึ่งของสมาคม หรืออาจจะเรียกว่าหมายเลขหนึ่งของโลก อย่างที่เคยเป็นมาตลอด

ข่าวสารเพิ่มเติม : Valentina Shevchenko อนิเมะ UFABET