WWE คืออะไร จุดเริ่มต้นขององค์กร มวยปล้ำระดับโลก เป็นกีฬาที่เก่าแก่ที่สุดอีกชนิดหนึ่ง
WWE คืออะไร หากพูดถึง กีฬามวยปล้ำ แน่นอนเลยว่าคำว่า WWE ก็คงจะเข้ามาในหัว ของเราเป็นอันดับแรก เพราะว่านี่เป็นชื่อของ สมาคมมวยปล้ำอายุกว่า 67 ปี ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากมาย จนก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของวงการ ตลอดเส้นทางอันยาวนาน WWE เผชิญหน้ากับคู่แข่งนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหน ที่พวกเขาพ่ายแพ้ กีฬามวยปล้ำ WWE คือกีฬาได้ชื่อว่า เก่าแก่ที่สุดในโลก เพราะตั้งต้นด้วยความว่าง เมื่อไม่มีอะไรทำ ก็มาปล้ำกัน
ออกแรงกอดรัดฟัดเหวี่ยง เรียกว่าเป็นกีฬาคนป่า ที่เล่นโดยมนุษย์ ใช้กำลังวัดกัน หมัดต่อหมัด และต่อมาก็พัฒนาโดย ใช้เกณฑ์เชลยศึก มาต่อสู้กันเพื่อแลกอิสรภาพ ซึ่งบางครั้งก็สู้กับสัตว์ร้าย ทำให้ในอดีต มันเป็นกีฬาที่อันตรายถึงตาย และมีไว้ให้สำหรับชนชั้นสูงดู แต่สำหรับในปัจจุบันนี้ ทุกก้าวที่เดิน
คือการปฏิวัติวงการ กีฬามวยปล้ำ ที่เคยป่าเถื่อน แปรเปลี่ยนมาเป็น กีฬารูปแบบบันเทิง หรือว่า Sport Entertainment ที่สามารถเข้าถึง ผู้ชมได้ทุกเพศวัย ไม่จำกัดในวงแคบแบบเมื่อก่อน และในวงการมวยปล้ำแบบนี้ มันก็คือการทดสอบ ทักษะความสามารถ เพื่อต่อยอดไป สู่วงการบันเทิงได้อีกด้วย
หากใครที่ติดตาม วงการนี้ดีก็จะรู้ว่า พวกเขาไม่ได้ขึ้นมา ปล้ำแล้วแยกย้าย เพียงอย่างเดียว เพราะว่าการที่จะ เข้าสู่วงการมวยปล้ำได้ นอกจากจะมีทักษะ การปล้ำที่ดีแล้ว ยังต้องมีทักษะ ของความเป็นนักแสดง แฝงเอาไว้อีกด้วย นั่นก็คือการเอ็นเตอร์เทน ที่ทำอย่างไรให้โชว์ดูสนุก ให้คนดูลุ้นไปด้วยกัน
เพราะรู้กันดีว่ามวยปล้ำ คือโชว์ที่ไม่ได้ต่อยเตะกันจริงๆ ดังนั้นความยาก จึงอยู่ที่การแสดง ที่จะให้เรารู้สึกอินไปกับบทบาท และต้องสื่อความรู้สึก ไปยังผู้ชมที่อยู่ในเวที และผู้ชมทางบ้านด้วยเช่นกัน
WWE คืออะไร จุดเริ่มต้นของวงการมวยปล้ำ กว่าจะมาเป็นที่รู้จักอย่าง WWE
สำหรับเจ้าของสมาคมก็คือ Vince McMahon ที่เราเห็นบทบาทในทีวี เป็นเจ้านายที่ใช้ อำนาจกดขี่ลูกน้อง แต่ถ้าหากพูดถึงประวัติบริษัท ก็คงต้องย้อนไปถึงรุ่นปู่ของเขา ซึ่งนาย Jess McMahon ปู่ของ Vince เป็นผู้จัดแข่งขัน ชกมวยสากล โดยมีแนวคิดที่แปลกใหม่ สำหรับสมัยนั้นคือการ เพิ่มความบันเทิงให้คนดู
นำวงดนตรีมาแสดงสดในสนาม และต่อมา Vincent J. McMahon พ่อของ Vince มีความสนใจที่จะทำ ธุรกิจมวยปล้ำ จึงก่อตั้งค่าย Capitol Wrestling Corporation (CWC) ขึ้นเมื่อปี 1952 จัดปล้ำในเมืองทาง อเมริกาเหนือแทบทุกเมือง และได้ทำสัญญาฉายทางทีวี จึงเริ่มมีฐานคนดูสูงขึ้น
และเมื่อค่ายเติบโต จึงเริ่มมีปัญหากับ National Wrestling Alliance (NWA) ซึ่งเป็นเสมือนบริษัทแม่ ที่ทุกค่ายจะต้องมาสังกัด ทาง CWC จึงขอแยกออกมาเป็นสมาคมอิสระ และเปลี่ยนชื่อเป็น World Wrestling Federation (WWF) ในปี 1979 จนปี 1982 ก็ถึงคราว Vince McMahon
ขึ้นมาบริหารงานแทนพ่อ ด้วยการที่เขานั้นคลุกคลี กับวงการมาตั้งแต่เด็ก จึงได้นำประสบการณ์เหล่านั้นมาใช้ จนสมาคมเติบโต อย่างมากในช่วงนั้น มวยปล้ำมักถูกวิจารณ์ ว่าเป็นการแสดงแต่ทาง Vince ก็เอามาสร้างเป็นจุดเด่นเสียเลยผลักดัน WWF ให้เป็น Sport Entertainment มีเนื้อเรื่องให้ติดตาม
และสร้างพระเอก ประจำสมาคมอย่าง Hulk Hogan ขึ้นมา นอกจากนี้ เขาได้ประยุกต์ วิชาจากปู่เรื่องการ แทรกความบันเทิง และจากพ่อเรื่องการ ขยายฐานผ่านสื่อ โดยได้จัดศึกใหญ่ประจำปี ที่มีชื่อว่า WrestleMania ในลักษณะ Pay per view เชิญดารา นักร้อง มาสร้างสีสัน ให้ดูเป็นการต่อสู้ ที่ยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งประสบความสำเร็จ เป็นอย่างมาก
นักมวยปล้ำ แห่งWWE แต่ละครั้งที่ขึ้นปล้ำ เจ็บจริงไหม?
วงการมวยปล้ำ นั้นก็ถือว่า เป็นสื่อบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ที่ต้องโดดเด่น มีแฟนคลับคอยให้การ สนับสนุนอย่างแน่นหนา เท่านั้นถึงจะอยู่รอด และจากการที่ต้องมีแฟนคลับ ก็จะส่งผลต่อไปยังการ ดันนักกีฬา โดยค่ายต่างๆที่ รวมไปถึงการวางตัวผู้แพ้ ผู้ชนะ การสร้างสกิลอัลติเมท ที่เป็นท่าไม้ตายประจำตัว
ซึ่งก็มีทั้งที่ดูสมจริง ร้ายกาจ ต้องอาศัยความ แม่นยำในการซ้อมที่สูงมาก ไม่งั้นจะเกิดอันตราย แก่เพื่อนร่วมอาชีพ และส่วนที่ดู ติ๊งต๊องเองก็มีเช่นกัน อย่างเอาถุงเท้ายัดปาก เป็นต้นภายหลังจึงมี นักมวยปล้ำ ที่เป็นตัวละครที่มี เอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ปรากฏออกมาหลายคน สาเหตุเป็นเพราะ ฝ่ายการตลาดนั้น
คิดว่าน่าสนใจ สามารถเข้ามา อยู่ในกระแสสนใจ ของผู้ชมได้ และทำให้รายการ ไม่น่าเบื่อและคำถาม ที่ว่ามวยปล้ำ เจ็บจริง หรือแค่แสดง ต้องตอบเลยว่า เป็นการแสดงที่สามารถ เจ็บจริง หากนักกีฬา ไม่แม่นคิวมากพอ เพราะมีหลายครั้ง ที่เกิดการผิดคิว และทำให้เกิดอันตราย ได้จนถึงขั้นเสียชีวิต
ก็มีมาให้เห็นแล้ว โดยเฉพาะสกิล อัลติเมทที่ดูอันตรายทั้งหลาย ไม่ว่าจะฟาดด้วยสิ่งของ ดิ่งพสุธาลงมาอัดใส่คู่ต่อสู้ ดังนั้นจึงทำให้ กีฬาชนิดนี้จึงต้องอาศัย ความสามารถ หลายอย่างทีเดียว Riddick Bowe
นักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงที่สุด อีกทั้งยังเป็นนักแสดงในภาพยนตร์ระดับโลกอีกด้วย
นักมวยปล้ำชื่อดัง ก็มีอยู่ให้เราได้เห็น ตามภาพยนตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Dave Bautista ที่มีผลงานดังๆอย่าง Guardians of the Galaxy Vol. 1 & 2 กับ 007: Spectre หรือจะเป็น John Cena นักมวยปล้ำขวัญใจเด็กๆ ก็มีผลงานดังอย่าง 12 Rounds, Bumblebee, Playing with Fire และล่าสุดก็คือ Fast 9
แม้ว่าทั้ง Bautista และ Cena จะยังไม่ได้รับความนิยมเท่า The Rock ในวงการนักแสดงภาพยนตร์ แต่ถึงอย่างไรเมื่อ นักมวยปล้ำผันตัวเป็นนักแสดง ก็มีข้อดีเพิ่มเติม ตรงที่เพิ่มฐาน แฟนคลับได้มากขึ้น บวกกับการรีเทิร์น สู่สังเวียนมวยปล้ำในบางครั้ง ก็ยิ่งได้ยอดผู้ชม ที่มาจากแฟนคลับ ภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้นด้วย
ถือว่าได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย อีกทั้งองค์กร WWE ก็ถือว่าเป็นบ้านหลังที่สอง ของเหล่านักปล้ำด้วย ที่ชัดเจนที่สุด ก็คือการรีเทิร์นของ The Rock ที่เขากลับมาจะพูดว่าที่ WWE มันคือบ้าน คือครอบครัว ที่คอยผลักดัน สนับสนุนเขาตลอดมา
ข้อมูลดีๆ : อนิเมะ UFABACCARAT
