หนังไทยเกี่ยวกับมวย รวมหนังเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้มวยไทย หนังบู๊ที่สนุกสุดมันส์

หนังไทยเกี่ยวกับมวย หนังบู๊ที่มีศิลปะการต่อสู้มวยไทย เข้ามาผสมผสานในเรื่อง

หนังไทยเกี่ยวกับมวย หากว่าจะกล่าวถึง ภาพยนตร์ไทย ระดับตำนานที่เกี่ยวข้อง กับวีรบุรุษหรือฮีโร่ ตัวละครหลักก็มักที่จะ เผยให้เห็น ความเป็นไทยที่ถูกสอดแทรก รวมอยู่ในวิชาการต่อสู้ หยั่งรากลึกยึด ผืนแผ่นดินสยามประเทศ ด้วยที่สุดแห่ง ศาสตราวุธทั้งแปดส่วน ของร่างกาย นั่นก็คือ “ศิลปะแม่ไม้มวยไทย”

และวันนี้เราจะพามาดู หนังแอ็กชันจากฝีมือคนไทย ที่ได้รังสรรค์เรื่องราวแห่ง ความรักชาติบ้านเมือง ปกป้องด้วยศาสตร์การต่อสู้ อันเป็นเอกลักษณ์ เผยแพร่วัฒนธรรมที่แสนภาคภูมิใจ ให้ทั่วโลกได้รับรู้ เฉกเช่นเดียวกับ “นักมวยไทย” บนสังเวียนแห่งการต่อสู้ ในชีวิตจริงของ วัน แชมเปียนชิพ 

และหนังนั้นเอง ก็เป็นสื่อชนิดนึง ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งถ้าต้องการเติม โจทย์ความตื่นเต้น ให้กับผู้ชมนั้นแล้ว ต้องมีความรวดเร็ว และสมจริงจึงจะสามารถดึงผู้ชม ให้อินตามกับหนังที่จะสื่อออกมาได้ การทำหนังให้ตอบโจทย์ กับผู้ชมนั้นต้องหาเครื่องมือ หรือวิธีการให้ผู้ชมอิน โดยส่วนใหญ่จะใช้

อุปกรณ์เป็นอาวุธ เช่น ปืน ดาบ มีด เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ชมทั่วไป ไม่เคยจะได้ใช้อาวุธ หรืออุปกรณ์พวกนี้ การเข้าถึงหรือการใช้งาน แทบจะเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าเป็นอาวุธจากทางร่างกาย หลายคนจะเริ่มอินขึ้นมาทันที เพราะด้วยคำว่าร่างกาย ทุกคนมีอยู่ในตัวเองกันทั้งหมด และสิ่งที่มันจะแตกต่าง 5 นักชกเอเชีย

หรือเกิดอาวุธนั้นได้นั่นก็คือ ทักษะ อาวุธจากทางร่างกาย ที่หลายคนเรียกกันว่า ศิลปะการต่อสู้ มีหลากหลายแขนงมาก ถึงจะหลายแขนงมากสักเพียงใด ก็จะมีศิลปะการต่อสู้ไม่กี่สาย ที่เป็นที่นิยม และยอมรับ นำมาฝึกให้เป็นพื้นฐาน ทุกคนอาจจะเคยเห็น นักกีฬา นักชกมวย หรือ MMA จะเป็นการใช้ทักษะ การต่อสู้ทุกอย่างเชื่อไหมว่า นักชกมวย MMA แทบจะทั้งหมด ต่างก็ได้รับการฝึกฝน มวยไทย มากันแล้วทั้งหมด

หนังไทยเกี่ยวกับมวย มีเรื่องไหนบ้างที่ต้องดู บู๊กันแบบสุดมันส์ 

หนังไทยเกี่ยวกับมวย

เริ่มจากเรื่องแรก ที่เรียกว่าโดงดังแบบสุดๆเลย ก็คือเรื่อง องค์บาก (2546) เป็นหนังไทย ในช่วงยุคแรก ของการนำเสนอศิลปะการต่อสู้ และมีคำโปรโมทที่ว่า เล่นจริง เจ็บจริง ซึ่งได้รับความนิยม ในไทยเป็นอย่างมาก จนทำให้หนังเรื่องนี้ สู่สายตาคนทั่วโลก ทำให้มีชื่อเสียงและ

คำชมมากมายซึ่งมีผู้กำกับก็คือ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ชัดเจนมากในการนำเสนอ ความยิ่งใหญ่ของ “ศิลปะแม่ไม้มวยไทยโบราณ” ผ่านนักแสดงนำอย่าง จา พนม ทัชชกร ยีรัมย์ หรือ “โทนี จา” ที่ผู้รับบทเป็น บุญทิ้ง หนุ่มบ้านหนองประดู่ ที่ออกตามหา

องค์บาก พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกขโมยตัดเศียรไป จึงอาสาออกตามหา มาจนถึงกรุงเทพฯ จนได้เจอชายลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ที่ทิ้งท้องนา และกลิ่นโคลนสาปควายบ้านนอก มาร่วมทีมกับผู้หญิงคนนึง มาเป็นมิจฉาชีพ ต้มตุ๋นชาวบ้าน เพื่อเลี้ยงปากท้อง หนุ่มบ้านนอกไม่วาย ตกเป็นเหยื่อเพราะความซื่อ

แต่ด้วยความที่เป็นคนดี และเคยช่วยเหลือชีวิตทั้งสองไว้ ภายหลังเขาจึง ได้รับความช่วยเหลือ จากทั้งสองในการตามหาองค์บาก พร้อมถูกดึงเข้าสู่การต่อสู้ กับเจ้าพ่อมาเฟียอิทธิพล มืดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงต้องต่อสู้ทั้งชีวิตด้วยศิลปะ มวยไทย ตลอดจนการเดินทาง ตามหาองค์บากเพื่อ นำกลับคืนสู่หมู่บ้าน

และฉากแอ็กชันทั้งหมดในเรื่อง โดดเด่นด้วยการไม่ใช้สลิง และตัวแสดงแทนจึงทำให้ จา พนม กลายเป็นนักแสดงชาย ยอดนักบู๊แถวหน้าระดับโลก ที่โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน และบทบาทใหม่เพิ่มเติม คือนั่งแท่นกำกับเอง ในภาคต่อมา โดยตัวหนังมีทั้งหมด 3 ภาคด้วยกัน

เรื่องต่อมาจะเป็นภาพยนตร์ไทย แอ็คชั่นสุดมันส์อย่าง “ต้มยำกุ้ง” (2548) 

หนังไทยเกี่ยวกับมวย

ต่อยอดความสำเร็จกันอีกครั้ง ของผู้กำกับและนักแสดงคู่บุญ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” และ “ทัชชกร ยีรัมย์” ยังคงนำเสนอ ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ผ่านเรื่องราวที่เข้มข้นและซับซ้อนขึ้น การต่อสู้ข้ามชาติเพื่อ เอาชีวิตรอดของ เด็กหนุ่มและเพื่อนพ้อง เพื่อช่วยเหลือช้างพ่อลูก จนได้ค้นพบกับ “ตำนานมวยคชสาร” มีทั้งหมด 2 ภาค

ที่จะเป็นการเดินข้ามโลก ของหนุ่มบ้านนอก ที่ชีวิตต้องพลิกผัน จากผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ โดยลักพาตัวช้างพลาย 2 ตัว พ่อลูกซึ่งเด็กหนุ่มบ้านนอก กับพ่อของเขารักเท่าชีวิต มีความมุ่งหมายอันสูงสุด ที่ต้องการมอบให้ กับราชวงศ์หลวง แต่ดันถูกนำไปขาย ในต่างประเทศ ทางเดียวที่จะ ช่วยเหลือช้าง

อันเป็นที่รักของเขานั้นได้ ต้องเดินข้ามประเทศ เพื่อตามหา แต่แน่นอนว่ามัน ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ถึงแม้จะได้รับการช่วยเหลือ จากตำรวจไทยในต่างแดน และสาวไทยที่ ถูกหลอกมาขายตัวก็ตาม ต้องมาพัวพันกับการไล่ลา ของแก๊งค์มาเฟีย

ที่มีลูกสมุนเต็มไปหมด แถมยังมีฝีมือ ด้านทางการต่อสู้ การต่อสู้ในต่างแดน หนุ่มและเพื่อนพ้อง ต้องตามหาและช่วยเหลือช้าง ที่เปรียบได้กับญาติพี่น้อง นำไปสู่บททดสอบและต่อสู้ เขาจึงจะต้องใช้ มวยไทย ที่หนักหน่วงและรุนแรง

ทองดีฟันขาว (2560) เป็นหนังที่ใช้แม่ไม้มวยไทยแบบจัดเต็ม  และทำให้ บัวขาว คว้ารางวัลนักแสดงดีเด่นไปครอง

หนังไทยเกี่ยวกับมวย

โดยเรื่องนี้จะเป็น ภาพยนตร์ปฐมบทก่อน พระยาพิชัย จะดาบหัก จากฝีมือการกำกับ ของนักแสดงรุ่นใหญ่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ดัดแปลงจาก อัตชีวประวัติของ พระยาพิชัยดาบหัก หรือ จ้อย หรือ นายทองดีฟันขาว ทหารเอกใน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

และนำแสดงโดยนักมวยไทยชื่อดัง “บัวขาว บัญชาเมฆ” จะเป็นเรื่องราว ก่อนที่ตัวละคร ทองดีฟันขาว จะได้จับดาบปกป้องพระเจ้าตากฯ เขาคือนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ และใช้ ศิลปะแม่ไม้มวยไทย พิสูจน์ตนจนกลายเป็นวีรบุรุษ

ซึ่งในสมัยอยุธยาตอนปลาย โรงมวยเปรียบเหมือนสถาบัน ที่รวมเหล่ายอดนักสู้ เอาไว้ด้วยกัน ภายใต้การดูแล และฝึกสอนของครูมวย ที่มีความเชี่ยวชาญ ที่แตกต่างกันไป แต่กว่าจะได้รับ การยอมรับเป็นศิษย์ ของแต่ละสำนักนั้น ก็ต้องมีความอดทน และเก่งกาจไม่แพ้ใคร นายทองดีเป็นหนึ่งในนักสู้

ที่เชื่อมั่นในฝีมือของตน จนไม่เคยรู้ว่าการฝึก การต่อสู้นั้นเรื่องจำเป็นแค่ไหน จนกระทั่งได้พบกับ ความพ่ายแพ้ แบบที่ยากจะยอมรับ การเดินทางเพื่อค้นหา ครูมวยในศาสตร์ต่างๆ จึงเริ่มขึ้น เพื่อไปสู่จุดที่เขา จะกลายเป็นนักมวยเลื่องชื่อ คนสำคัญของอยุธยา หนังเรื่องนี้เองก็เล่าถึง ความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ

ความกล้าหาญ ความจงรักภักดี ความสำคัญของชีวิต “ทองดีฟันขาว” นักชกหัวใจแกร่ง ด้วยความสามารถ และชะตาชกมวย ทำให้เขาเป็นทหาร ที่ภักดีต่อ พระเจ้าตากสินมหาราช และผู้เสียสละต่อสู้ เพื่อปกป้องประเทศ เพื่อเป็นวีรบุรุษของคนไทยที่เรียกว่า ” พระยาพิชัยดาบหัก “

อัพเดทหนังมวยไทยจาก : ดูบอล123