ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี หนึ่งนักมวยไทย ระดับซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมืองไทย
ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี หรือชื่อจริง “นายธนกฤษ สิทธิกุล” ชื่อเล่น “ปั่น” เป็นคน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เกิดวันที่ 15 มิถุนายน 2539 เป็นลูกชายคนที่สองของบ้าน โดยมีพี่ชาย 1 คน และน้องชาย 1 คน ฤทธิ์เทวดา มีความคลุกคลีกับ มวยไทย มาตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากคุณพ่อ ร.ต.ต.นิพนธ์ สิทธิกุล ซึ่งปัจจุบันรับราชการตำรวจ เคยเป็นนักมวยเก่ามาก่อน และได้สร้างค่ายมวยเล็กๆ ของครอบครัวในชื่อว่า “ค่ายมวยสิทธิกุล”
ลูกชายทั้งสามคน จึงได้หัดมวยมาตั้งแต่เด็ก จนปัจจุบันทั้งสาม ก็ยังสานต่อเจตนารมณ์ ของพ่อในการเป็น นักสู้บนผืนผ้าใบ โดยพี่ชายคนโต เป็นรู้จักกันดีในชื่อ “เดชเทวดา สิทธิกุล” ส่วนน้องชายก็กำลัง เจริญรอยตามพี่ๆ โดยมีฉายาว่า “คัมภีร์เทวดา สิทธิกุล”
ฤทธิ์เทวดา เริ่มต้นชกมวยตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยสังกัดค่ายมวย สิทธิกุลของครอบครัว ซึ่งเป็นค่ายมวยเล็กๆ มีเวทีเดียวตั้งอยู่ที่บ้าน แต่ได้สร้างความแข็งแกร่ง ให้เขาไม่แพ้ค่ายใหญ่ ภายหลังเมื่อมี ผู้สนับสนุนจึงใช้ชื่อ “ฤทธิ์เทวดา ส.นิภาพร” แต่ก็ยังซ้อมอยู่ ในค่ายมวยที่บ้านเหมือนเดิม และเพิ่งจะตัดสินใจ
เปลี่ยนมาใช้สีเสื้อ เพชรยินดีอะคาเดมี ตลอดระยะเวลาที่เขา คลุกคลีอยู่บนสังเวียน มวยไทยร่วม 17 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ ฤทธิ์เทวดา ตัดสินใจย้ายออกจากรัง ทั้งที่เคยมีค่ายมวยใหญ่ มาทาบทามเขาหลายครั้ง การตัดสินใจนี้ ฤทธิ์เทวดา ให้เหตุผลว่า ต้องการมองหาความก้าวหน้า และได้ฝึกซ้อมกับ ค่ายมวยที่มีมาตรฐาน และ “เพชรยินดีอะคาเดมี” คือคำตอบสุดท้ายของเขาในเวลานี้
ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี นักชกจากแดนอีสาน สู่เวทีระดับโลก
ฤทธิ์เทวดา ได้มีผู้เข้ามาสนับสนุน โดยเปลี่ยนชื่อในตอนนั้นเป็น “ฤทธิ์เทวดา ส.นิภาพร” เขาสั่งสมชื่อเสียง และกระดูกมวย ด้วยการเดินสายชก ไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ทั่วภาคอีสาน จนแทบจะหาคู่เปรียบมวยไม่ได้ โดยสามารถกวาดเข็มขัด แชมป์มวยสยาม ภาคอีสานมาครองถึง 5 รุ่น
และแชมป์มวยภาคอีสานอีก 2 รุ่น ด้วยฝีมืออันโดดเด่น ที่มีทั้งอาวุธคมและ ไอคิวมวยเป็นเลิศ ทำให้ ฤทธิ์เทวดา เป็นที่ต้องการตัวจาก โปรโมเตอร์ชื่อดัง และในที่สุดเขาก็ได้เข้ามา โชว์ฝีมือในเมืองกรุง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตก เมื่อเข้าสู่เมืองกรุง ฤทธิ์เทวดา แจ้งเกิดอย่างเปรี้ยงปร้าง
ตั้งแต่ไฟต์เปิดตัวบนเวทีมวย หลากสีด้วยการชนะมวยรุ่นพี่ อย่าง “รุ่งเกียรติ ซากามิ” ในวัยเพียง 17 ปี ในปีเดียวกัน เขาก็ทะยานขึ้นนั่งแท่น แชมป์มวยไทยช่องเจ็ดสี รุ่น 140 ปอนด์ รวมทั้งคว้าเสื้อสามารถจากรางวัล คู่มวยดุเดือด แห่งปีช่อง 7 สี ปี 2557 และกลายเป็นขวัญใจ คอหมัดมวยจอตู้ตั้งแต่นั้นมา
จากนั้น ฤทธิ์เทวดา ก็เดินหน้ากวาดเข็มขัดแชมป์ จากหลายเวที ได้แก่ แชมป์สภามวยไทยโลก (WMC) รุ่น 140 และแชมป์เวทีลุมพินี รุ่น 140 ปอนด์ และมีชื่อเสียงโด่งดัง ในฐานะมวยยอดฝีมือ ที่หาตัวจับยากคนหนึ่งของไทย
“ฤทธิ์เทวดา” ทิ้งค่าตัวแสนเพื่อเดินตามความฝัน นักมวยยอดฝีมือ
จากนักชกภูธร ฤทธิ์เทวดา กลายเป็นนักมวยยอดฝีมือ ค่าตัวเรือนแสนที่มีแต่ ค่ายดังต้องการตัว แต่เขากลับตัดสินใจ ทิ้งชื่อเสียงเงินทอง เพื่อทำตามความฝันในการเป็น นักมวยสากลทีมชาติไทย ที่ฤทธิ์เทวดา ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ว่ามีธงขาติไทยติดอยู่ที่อกเสื้อ จึงเบนเข็มมา ชกมวยสากล โดยลงแข่งครั้งแรก
ในศึก “ไทยแลนด์โอเพ่น อินเตอร์เนชั่นแนล บ๊อกซิ่ง ทัวร์นาเมนต์ 2019 ครั้งที่ 2” ในปี 2562 และคว้าชัยชนะอย่างสวยงาม แต่ด้วยประสบการณ์ การชกมวยที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับ นักชกคนอื่นในทีมทำให้ ฤทธิ์เทวดา มีโปรแกรมการชกน้อย ประกอบกับรายรับ ไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่าย
เขาจึงตัดสินใจอำลาทีมชาติไทย กลับมาชกมวยไทยอีก ครั้งหลังจากรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี ฝีมือของ ฤทธิ์เทวดา ไปเข้าตาของค่ายใหญ่ หลายค่ายซึ่งมาพยายาม ทาบทามเขาเข้าสังกัด แต่เขาก็ยัง ไม่ปลงใจกับค่ายใด จนกระทั่งล่าสุด ฤทธิ์เทวดา ตัดสินใจไปซบอกค่าย “เพชรยินดีอะคาเดมี”
จากผลงานของค่ายเพชรยินดีฯ ในการปั้น 3 แชมป์โลก ONE ได้แก่ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี”, แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” และอดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต “เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” ฤทธิ์เทวดา จึงหวังว่าเขาจะรับได้โอกาส ในการก้าวขึ้นเป็น นักมวยระดับโลก และสานต่อความสำเร็จ ของตนเองในอีกขั้น
โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องการ ความก้าวหน้าในชีวิต ซึ่งค่ายเพชรยินดีฯ ก็เป็นค่ายมาตรฐาน ที่ส่งนักชกไปโชว์ผลงาน บนเวทีระดับโลกอย่าง ONE มาแล้วหลายคน ฤทธิ์เทวดา จึงหวังว่าเขาจะได้รับ โอกาสในการก้าวขึ้นเป็น นักมวยระดับโลก ด้วยเช่นเดียวกัน
นักสู้มากฝีมือ ก้าวขึ้นสู่นักมวยเวทีระดับโลก นักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์แถวหน้า
ฤทธิ์เทวดา เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมวยซ้าย ที่มีเทคนิคชั้นสูง มีความเร็ว ไอคิวมวย และสายตาดี ประมือกับนักมวยแถวหน้า มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์, ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย
แสงมณี ส.กาแฟมวยไทย, เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส, ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์, แสงมณี, ปกรณ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9, พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม
นอกจากความช่ำชอง ในกีฬามวยไทยแล้ว ฤทธิ์เทวดา ยังเคยชกมวยสากลสมัครเล่น ทีมชาติไทยอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะอำลาทีมชาติ เพื่อกลับมาหารากเหง้ามวยไทย เขาตั้งใจว่าเมื่อเข้ามาอยู่ใน วัน แชมเปียนชิพ แล้ว จะขอวาดลวดลาย ทั้งในกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง
“ผมรู้สึกดีใจมากครับที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งถือเป็นเวทีใหญ่ระดับโลก มันเป็นโอกาสดี ที่ผมจะได้โชว์ฝีมือ ในเวทีระดับโลกและได้เจอกับนักสู้เก่งๆจากทั่วโลก ซึ่งผมก็ตั้งใจจะพิสูจน์ตัวเอง ว่าผมมีความสามารถมากพอ โดยผมตั้งเป้าว่า อยากจะลงแข่งขัน ทั้งในกติกามวยไทย และคิกบ็อกซิ่งครับ”
ข่าวสารเพิ่มเติม : จอร์จิโอ เปโตรเซียน อนิเมะ แทงบอลโลก