มวยสากล เจาะลึกถึงประวัติความเป็นมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
มวยสากล เป็นมวยที่ใครๆต่างได้ยินในปัจจุบัน มีการแข่งขันในช่วงโอลิมปิค หรือในสถานศึกษาต่างๆที่จัดขึ้นให้กับนักศึกษา แต่มีใครรู้ถึงความเป็นมาของมันหรือไม่ สำหรับ มวยสากล คือ เป็นทักษะการใช้เพียงมือเปล่าในการสู้เท่านั้น พร้อมกับทักษะการหลบลีก ความแม่นยำในการออกหมัด สำหรับยกของมวยสากลจะอยู่ที่ 12 ยก หากไม่มีฝ่ายไหนชนะ จะตัดสินจากคะแนนในการออกหมัดถึงตัวคู่ต่อสู้
ไม่ว่าจะเป็นท้อง หน้าอก หน้าของคู่ต่อสู้ จะนับเป็นคะแนน เรามาพูดถึงประวัติที่มาของมันกันบ้าง สำหรับมวยสากลถิ่นต้นกำเนิดมาที่แรกคือ ประเทศอังกฤษ เป็นการต่อสู้ของทหารที่ออกไปรบสมัยก่อน ในการจะประชัดกันหนด ข้อกำหนดอย่างของการต่อสู้คือ นักกีฬาทั้ง 2 ต้องแก้ผ้าให้หมด เหลือเพียงตัวเปล่าเท่านั้น เพื่อกันไม่ให้เกิดการใช้อาวุุธนั้นเอง จนมาถึงปี ค.ส.1693-1694
มีผู้ชนะการแข่งขันนี้เป็นคนแรกชื่อว่า “จอร์น แอล ซัลลิแวน” เป็นผู้ชนะคนแรกในการต่อสู้โดยการใช้มือเปล่า และได้ถูกยกย่องเป็น”บิดาแห่งมวยสากล” หลังจากนั้นมาแชมป์เปี้ยนคนแรกของเรา ได้มีการกำหนดกติกาต่างๆ และยังเป็นคนแรกที่สร้างนวมมวยขึ้นมาเป็นคนแรก ต่อมาได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆและหลายประเทศยอมรับการเป็นกีฬา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ของประเทศ จนเกิดเป็นเกมกีฬาในระหว่างประเทศจนมาถึงในปัจจุบัน
มวยสากล ประวัติการมีบทบาทและได้รับความนิยมอย่างมากครั้งแรกในทวีปเอเซีย
สำหรับประเทศโซนเอเซียอย่างเรานั้น แหล่งกำเนิดจริงๆนั้น เราไม่รู้เลยใช่ไหมครับ เดี๋ยวจะมาพูดถึงแหล่งที่มาครั้งแรกของมวยสากล ว่าประเทศอะไรเป็นประเทศแรกที่นำมวยสากลมาใช้ เรามาดูไปพร้อมกันเลย จุดเริ่มต้นครั้งแรกของมวยสากลในเอเชียคือประเทสพิลิปปินส์ หลังจากสงครามโลกระหว่างอเมริกาและสเปน เมื่อคริสตร์ศักราช 1898 หรือพุทธศักราช 244นั้นเอง
หลังจากสงครามในครั้งนั้น สเปนแพ้คงรามจึงยก ฟิลิปปินส์ให้กับอเมริกา หลังจากนั้นมวยสากลจากอเมริกาได้มีการแพร่หลายภายในประเทศฟิลิปปินส์ ต่อมาฟิลิปปินส์ได้มีนักมวยฝีมือดีหลายคน ได้เข้าไปชกที่อเมริกาอย่างมาก จากนั้นการชกเผยแพร่เข้าไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ผลกระทบหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้การชกมวยเริ่มไม่เป็นที่นิยม และหลังจากจบการทำสงครามโลก การฟื้นตัวของวงการมวย ได้แพ่ขยายอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นได้รับความนิยมแบบสุดๆก็ว่าได้ มวยสากลโลกล่าสุด
และประเทศญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพจัดการชกมวยสาดลระบดับนานาชาติขึ้น แต่การชกครั้งนั้นเป็นไม่อย่างดุดัน ทำให้ผลคะแนนออกมาคือเสมอนั้นเอง คู้ชกในครั้งนั้นจะเป็นระหว่าง เทอิโกะ จากประเทศญี่ปุ่น ชกกับ กอน ซาเลช จากประเทศฟิลิปปินส์ และต่อมาประเทศญี่ปุ่นได้มีการจัดตั้งสมาคมกีฬามวยสากลขึ้น และใรเวลาไล่เลี่ยกันนั้น ประเทศฟิลิปปินส์ได้จัดตั้งองค์กรกีฬามวยสากลขึ้นอย่างเป็นทางการ
โดยมีทั้ง 3 เทศอย่าง ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่นและประเทศไทย ได้จับมือกันระหว่างประเทศก่อตั้ง สหพันธ์มวยสากลแห่งเอเซียขึ้นนั้นเอง โดยบุลคลที่มีบทบาทในวงการมวยสากลมากที่สุดคือ ยูจิโร จากประเทศญี่ปุ่นที่เป็นักมวยใยสมัยนั้น ฝันตัวขึ้นมาเป็นผู้สนับสนุนวงการมวสากล ต่อมาญี่ปุ่นที่จัดทัวร์ไปชกกับสหรัฐอเมริกา โดยส่งตัวนักชกอย่าง วาตานาเบะนักชกมากฝีมือจากญี่ปุ่น ไปชกในอเมริกาและอยู่ที่นั้นเป็นเวลา 11 ปี ต่อมาได้จัดตั้งค่ายมวยในอเมริกา และมาลูกศิษย์มากมาย
และยังมีชกที่่ผันตัวมาเป็นโปรดิวเซอร์ และจัดตั้งขึ้นมาอีกมากมายอย่างเช่น ซัม อิชิโนะ ลูกครึ่งระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ที่สร้างชื่อเสียงมากมาย ต่อมาได้มาเป็นเทรนเนอร์พร้อมสนับสนุนไปด้วย และอีกคนคือ โลเป ซาเรียร ผู้จัดการนักมวยฟิลิปปินส์ที่เป็นส่วนหนึ่ง ในการสร้างแชมส์โลกมวยสากลหลายคนก็ว่าได้ ม่ว่าจะเป็น แฟลช อิลอสเด้ ชาวฟิลิปปินย์ โยชิโอะ ชิราอิ ชาวญี่ปุ่นและแสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ นักชกชาวไทยนั้นเอง
มวยสากลที่เข้ามาเป็นที่รู้จักในประเทศไทย ผู้บุกเบิกครั้งแรกของชาวไทย
มวยสากล ที่ถูกเรียกในปัจจุบันนั้น สมัยก่อนนั้นมีอีกชื่อที่ถูกเรียกว่า “มวยต่างประเทศ” เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกใน พุทธศักราชที่ 2455 โดยการชกจะนำมาจากสหรัฐอเมริกา คนไทยที่นำมาให้เรารู้จักคือ หม่อมเจ้าวิบูลสวัสดิ์วงศ์ นำเข้ามายังสถานศึกษาที่แรกคือ โรงเรียนกุหลาบวิทยาลัย และต่อมาได้จัดการแข่งขันขึ้น มีโลกเรียนมากมายต่างให้ความสนใจ และเข้ามาการแข่งขันเป็นจำนวนมาก โดยการแข่งขันครั้งนั้นถูกเรียกว่า “มวยสากลสมัครเล่น” ต่อมาในปีพุทธศักราช 2457
พระยาคฑาธรบดีสีหบาลเมือง ได้ไปยังพื้นที่หลังคาแดง หรือ สวนลุมพีนีในปัจจุบัน ได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านได้รับชม โดบเชิญชาวต่างชาติเข้าชกในประเทศ ต่อมาในมีความนิยมมากยิ่ง จึ่งได้คัดเลือกนักมวยสากลชาวไทย ไปขึ้นชกกับนักมวยต่างชาติ โดยการชกจะเป็นการชกแบบสากลอาชีพ และมีการชกครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พุทธศักราช 2472
ในตอนนั้นเองผู้ได้ขึ้นชกเป็นตัวแทนชาวไทยได้แต่ สวรรณ นิวาศวัต นักชกคู่แรก เป็นการชกที่เผ็ดมันอย่างมาก แต่รูปแบบการชกของชาวต่างชาติเหนือกว่า จึงทำให้การแข่งขันรอบนั้น ชาวไทยเป็นฝ่ายแพ้น้อคในยกที่ 4 และต่อมาในคู่ที่ 2 นักชกชาวไทยอย่าง โม่ สัมบุณณานนท์ ออกหมักหนัก สเต็ปการหลบที่ว่องไว ทำให้ได้รับชัยชนะในการชนะน็อค ที่ขึ้นชกกับ ยีชล โคโรนา ชาวฟิลิปปินส์ จากการแข่งขันในครั้งนั้น
มวยสากลได้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากขึ้น มีนักชกชาวไทยไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สมพงษ์ เวชสิทธิ์ แชมป์มวยสากลที่พิชิตในประเทศสิงคโปร์ และต่อมาจะเป็น พระประแดงเป็นรองแชมป์โลกคนแรกของประเทศไทย และยังมี จำเริญ ทรงกิจ เป็นแชมป์รุ่น OPBF คนแรกแต่ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น มวยสากลไทย
เพราะความขยันของจำเริญได้ไปขึ้นชกชิงแชมป์โลกคนแรกด้วย แต่การชกครั้งนั้นถือว่าทำได้ดีอย่างมากแต่แพ้ให้กับชายต่างชาติไปอย่างน่าเสียดาย และในที่สุดก็ได้แชมป์มวยสากลคนแรกคือ โผน กิ่งเพชร ถือว่าครองแชมป์ยาวนานที่สุด ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2503 ถึงปีพุทธศักราช 2550 และตอนนั้นเอง ในประเทศไทยมีแชมป์โลกทั้งหมด 37 คน เป็นสถิติที่มากที่สุดในเอซียก็ว่าได้
มวยสากลที่แผ่ขยายไปยังประเทศญี่ปุ่น จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจนมาถึงในปัจจุบัน
ในประเทศที่เคยย่ำแย่ในยุคสงคราม แต่กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังจากจบคงคราม แถมยังมีนักชกมากฝีมือมากมาย ที่ไปสร้างชื่อให้กับประเทศของตน มวยสากลอาชีพ ของประเทศญี่ปุ่นนั้น เกิดครั้งแรกที่กรุงโตเกียวใจกลางญี่ปุ่น ในปีพุทธศักราช 2464 นักชกชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้แชมป์จากการชกกับสหรัฐอเมริกาอย่าง ยูจิโร วาตานาเบะ แถมได้รับฉายาจากชาวอเมริกาว่า “ราชันย์4ยก” ผู้ล้มแชมป์ได้เพียงแค่4ยกเท่านั้น และเป็นนักชกคนแรกที่ได้แชมป์โลก
และในตอนนั้นเองวงการมวยในประเทศญี่ปุ่น ได้เป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของเกมกีฬา เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วง พุทธศักราช 2503 ถึงพุทธศักราช 2513 เป็นเวลากว่า 10 ปี และต่อมานั้นได้มีนักชกที่ถือครองทั้ง 2 รุ่น ทั้งรุ่นน้ำหนักรุ่นเล็กที่สุดตั้งแต่ 108ปอนด์แต่ไม่เกิน 112ปอนด์ และรุ่นน้ำหนักมากกว่า 115ปอนด์ แต่ไม่เกิน 118ปอนด์ จนถูกสมาพันธ์มวยสากลในญี่ปุ่นจัดตั้งหอวีรกรรมของวงการมวยสากลอีกด้วย ต่อมาในปี2513ไปจนถึงปี2523
ได้มีแชมป์เปี้ยนเกิดขึ้นมามากมาย ทำสถิติที่ดีอย่างมากก็ว่าได้ และจากการชกหลายสถาบัน หลายประเทศขึ้นมานั้น ในที่สุดก็ได้นักชกมวยสากลแชมป์โลกที่ใหญ่ที่สุดเป็นคนแรกที่ได้รับชัยชนะที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่ ชินจิ ทาเกฮาระ แต่เป็นแชมป์โลกเพียงชั้นๆ อยู้ได้เป็นแชมป์โลกเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้น ต่อมาสมาคมมวยสากลแห่งประเทศได้ให้ความสำคัญ
กับนักชกทั้งระบบการดูและการกินและสุขภาพต่างๆเป็นอย่างดี โดยมีสถาบันใหญ่ที่ยอมรับเพียงแค่ 2 สถาบันเท่านั้นคือ สมาคมมวยโลกหรือ WBA และ สมาคมสวยโลกหรือ WBC เท่านั้น แต่ก็ยังมีนักชกที่ขึ้นชกสถาบันอื่นมากมาย สำหรับในการรับชมการถ่ายทอดสดนั้น จะมีสถานนีโทรทัศน์ของแต่ละค่าย จะมีการถ่ายทอดแตกต่างกันออกไป สามารถรับชมได้อย่างอิสระภายในประเทศนั้นเอง จะต่อมาได้มีข่าวออกมาให้อ่านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิตยาสารมวย หนังสือพิมส์มวย และอื่นๆอีกมากมายจัดทำขึ้น
กฎและกติกาของการแข่งขันมวยสากล ที่คนทั่วไปยังไม่เข้าใจ
กติกาการชกมวยสากลนั้น แบ่งออกเป็น 5 ยกแต่ละยกจะมีเวลาจำกัดเพียงแค่ 5นาททีเท่านั้น การยกของนักมวยนั้นจะเป็นการออกหมัดตามเป้าเพื่อเป็นคะแนน สู้กันจนครบถึงยกที่5 หรือมีการยอมแพ้หรือน็อคในรอบนั้นอีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายชนะไปโดยบริยาย มาดูกันว่าการให้คะแนนมีไรบ้าง ทักษะมวยสากล
- กรรมการตัดสินการให้คะแนนจะมีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น
- กรรมการแต่ล่านท่านจะมีคะแนนให้กับนักชกสูงสุดเต็ม 10 คะแนน ให้ต่อยกเท่านั้น
- และผลรวมล่าสุดจะประมาณในยกสุดท้าย หลังจบการยกเท่านั้น หากมีการน๊อคหรือยอมแพ้ จะไม่มีคะแนนประกาศนั้นเอง
- สามารถออกไปเพียงหมัดเท่านั้น ไม่สามารถใช้เท้าหรือกัดได้ หากเกิดเหตุการอย่างนั้นขึ้น จะมีการปรับแพ้ทันที
- หากมีการใช้สารต่างๆ หรือยากระตุ้น หรือมีการวางยานักชก ทีมหรือผู้มีส่วนร่วมของทีม จะโดนแบนการแข่งขันหรือถอดถอนการเป็นนักมวยทันทีบทความมวยที่น่าสนใจเพิ่มเติม >> ตำนานมวยไทย
ติดต่อเรา : คลิ๊ก!!