มวยจีน ศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แถมยังดีต่อสุขภาพ

มวยจีน ศิลปะการต่อสู้ของจีน การต่อสู้ของประเทศจีนที่มีมาตั้งแต่โบราณ ที่เรียกกันว่า ไท่เก๊ก

มวยจีน สำหรับกีฬาการแข่งขัน และ ศิลปะการป้องกันตัว หรือในเรื่องของการต่อสู้ต่างๆ ในแต่ละประเทศเอง ก็ล้วนแล้วแต่มี เอกลักษณ์ที่เป็นตัวเอง และมีรูปแบบที่ แตกต่างกันออกไป ซึ่งทางประเทศจีนเองก็มีเช่นกัน โดยทาง มวยของจีน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อของ มวยไท่เก๊ก นั้นก็เป็นกีฬามวยที่มา จากประเทศจีนจริงๆ ซึ่งการรำมวยจีน ไท่เก๊ก เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่มีรากฐานมาจากเมืองจีน ที่เน้นเรื่องการเคลื่อนไหว แทบจะทุกส่วนของ ร่างกายอย่างต่อเนื่อง

และสม่ำเสมอกันตลอดเวลา โดยจะมีความช้าอยู่ในตัว ซึ่งรำโดยไม่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อ ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ การหายใจก็เป็นไปตามปกติ มีลักษณะของความต่อเนื่อง จากท่าแรกจนถึงท่าสุดท้าย เป็นลักษณะของการ นำเอาพลังของร่างกาย และจิตใจมาผสานเข้ากัน เนื่องจากผู้ที่ฝึกจะต้อง มีสมาธิในการรำ

มีการกำหนด สายตาตามท่าทาง ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบการฝึก เมื่อฝึกท่าทางต่างๆ จนคล่องแคล่ว หากเพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความแรงในการ ออกท่าทางก็จะถือว่าเป็น ศิลปะป้องกันตัว ที่เรียกว่า กังฟู หรือ กีฬาวูซู นั่นเอง ซึ่งไท่เก๊กนั้นก็ถือว่าเป็น 1 ใน 10 ของการแข่งขันวูซู ประเภทยุทธลีลา ทีเด็ดมวย

แต่ถึงแม้ว่าในระดับโอลิมปิก จะยังไม่บรรจุวูซู ให้เป็นหนึ่งในกีฬา ที่ใช้แข่งขันได้ แต่ในระดับเอเชียนเกมส์ และซีเกมส์ วูซูถูกบรรจุไปเรียบร้อยแล้ว และมีการจัดการแข่งขัน World Wusu Championship ขึ้นทุก 2 ปี มาแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2534 นั่นเอง

มวยจีน

มวยจีน ศิลปะการต่อสู้ มวยไท่เก๊ก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของสุขภาพที่ดี

การออกกำลังกายด้วยการ รำมวยจีน หรือ ไท่เก๊ก นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ ซึ่งเรียกว่าได้รับความนิยม อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนวัยทอง และผู้สูงอายุ แต่จริงๆแล้วการ รำมวยจีน นั้นเป็นการออกกำลังกาย ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะว่าเป็นการ

ออกกำลังกาย ระดับปานกลางถึงหนัก โดยประโยชน์ของ การรำมวยจีน คือเป็นการเพิ่ม ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหว ของร่างกายส่วนต่างๆ ทำให้ข้อต่อไม่ติดขัด และการทำงานของ ระบบหัวใจและ การหายใจให้ดีขึ้น ซึ่งรวมกันแล้วก็คือ สุขภาพกายสมบูรณ์ดียิ่งขึ้น ส่วนสุขภาพจิต

ก็ได้ในแง่ของการ ฝึกให้มีสมาธิ ที่ใช้ในการรำต่อเนื่อง กันตลอดเวลา โดยมีผลการวิจัย จากสหรัฐอเมริกาพบว่า การรำมวยจีนนั้น ช่วยลดความดันโลหิต ให้ต่ำลงได้พอๆกัน และหากว่าออกกกำลังกาย ด้วยการรำมวยจีน ติดกันเป็นเวลาเดือนครึ่ง จึงจะมีประโยชน์ ต่อระบบหัวใจและ หลอดเลือดได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือ ผู้ที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ไท่เก๊กยังเป็นกิจกรรม ที่ใช้อุปกรณ์ประกอบน้อย จึงทำให้ค่าใช้จ่าย ในการทำกิจกรรมไม่สูง อีกทั้งยังสามารถ ฝึกไท่เก๊กได้แบบทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะทั้งในสวนสาธารณะ หรือในห้องพัก จะฝึกคนเดียวหรือ ฝึกเป็นกลุ่มก็ได้เช่นกัน

ประโยชน์ของการ ฝึกศิลปะมวยไท่เก๊ก มีอะไรบ้าง ดีต่อสุขภาพร่ายกายและจิตใจ

ซึ่งลักษณะเด่นของ ไท่เก๊ก ก็คือการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ มีความนุ่มนวลและต่อเนื่อง และไม่ทำให้เหนื่อยหอบ เหมือนกิจกรรมหรือ การออกกำลังกายในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งการฝึกไท่เก๊ก อย่างถูกต้องและเป็นประจำ อาจส่งผลดีต่อสุขภาพจิต และสุขภาพร่างกายในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการ

เพิ่มความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ ทั้งกล้ามเนื้อส่วนบน กล้ามเนื้อส่วนล่าง กล้ามเนื้อแกนกลาง ของหน้าท้องและแผ่นหลัง รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่น และความคล่องตัว ให้แก่ผู้ที่ฝึกไทเก็กเป็นประจำ และยังพัฒนาการทรงตัว การฝึกไทเก็กอาจจะ ช่วยพัฒนาการรับรู้ ตำแหน่งและการ เคลื่อนไหวของร่างกาย

ซึ่งเกี่ยวข้องกับ การทำงานของเซลล์ประสาท ของหูชั้นในและ ความยืดหยุ่นของ กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น และช่วยลดความเสี่ยง ที่ผู้สูงอายุอาจหกล้มได้ นอกจากนี้เองยังมีการ ศึกษาได้ว่าแนะนำถึง การฝึกไท่เก๊กนั้น อาจช่วยลดความกลัว ที่จะหกล้มได้อีกด้วย แถมยังส่งผลดี ต่อสุขภาพร่างกาย

อย่างเช่น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการปวดข้อ อาการปวดหลัง ลดความดันโลหิต ส่งผลดีต่อสุขภาพของหัวใจ และส่งผลดีต่อสุขภาพจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการ ช่วยเพิ่มสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด พัฒนาอารมณ์ ช่วยให้หลับสบาย หรือนอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

มวยจีนไท่เก๊ก แตกต่างจากศิลปะการต่อสู้แบบอื่นอย่างไร ?

ซึ่งในหลักของ มวยจีน นั้นจัดว่าเป็น มวยภายใน คือฝึกเพื่อสร้าง ความแข็งแกร่ง ให้กับร่างกายตนเอง เป็นศิลปะการต่อสู้กับตนเอง ถ้าหากว่าเป็น มวยภายนอก ก็จะเน้น การใช้แรงปะทะกัน แต่มวยภายในนั้น จะประลองกำลังจากการสัมผัส อย่างเช่นการ ใช้แรงผลักจากมือ ต้านทานกำลังอีกฝ่ายหนึ่ง

เราก็จะวัดแรงของ ฝ่ายตรงข้ามว่า ถ้าเขาส่งแรงมาประมาณนี้ เราจะดำรงอยู่กับแรงนั้นยังไง เราไม่ได้ต้องการทำร้ายคนอื่น แต่เรานั้นต้องการ ดูแลสมดุลของเรา และดูแลสมดุลของเขา เพราะว่าถ้าหาก เปรียบเทียบกับ มวยไทย จากภายนอก นักมวยก็จะใช้กำลัง ของกล้ามเนื้อที่มี กล้ามเป็นมัดๆ

เพื่อแสดงถึงความแข็งแกร่ง ของร่างกาย แต่ ผู้ฝึกฝนมวยจีน จากภายในจะ มองไม่เห็นถึงความ เปลี่ยนแปลงของ กล้ามเนื้อมากนัก เพราะกระบวนการ ฝึกฝนสร้างความแข็งแกร่ง ของกล้ามเนื้อเป็นคนละแบบนั่นเอง

นอกจากใช้บริการร่างกายแล้ว ไท่เก๊กยังเคยเป็น ศิลปะการต่อสู้อีกด้วย

มวยจีน

แต่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ ไท่เก๊กจะนิยมสำหรับ การบริหารร่างกาย ต่างจากในอดีตที่ ใช้สำหรับการต่อสู้ป้องกันตัวเป็นหลัก แต่แนวโน้มของการฝึก เพื่อใช้เป็นศิลปะป้องกันตัว ก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ บรู๊ซ ลี นำเอาจิดคุนโด ที่มีการพัฒนามาจาก มวยหย่งชุน เข้าไปเผยแพร่สู่ โลกฮอลลีวูด

เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ตามมาด้วย เฉินหลง เจ็ตลี ผนวกกับการเผยแพร่ สู่ชาวโลกของวิทยายุทธ์ จากวัดเส้าหลิน ทำให้กังฟูกลายเป็น การต่อสู้ที่ดูเหมือน ว่าจะเป็นของคู่กับ ภาพยนตร์แอ็กชั่นไปแล้ว สำหรับท่านไหรที่ ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้แบบกังฟู หรือไม่ว่าท่านจะ เป็นเพียงผู้ที่เล่นมวยไท่เก๊ก

เพื่อบริหารร่างกายก็ตาม มีภาพยนตร์จากฮ่องกง เรื่องหนึ่งที่นำเอาศิลปะมวยไท่เก๊ก มาถ่ายทอดผ่านแผ่นฟิล์ม ออกมาได้อย่างน่าดู ดูซีรี่ย์ นั่นก็คือเรื่อง Tai Chi Hero (ไท่เก๊ก หมัดเล็กเหล็กตัน) ท่านจะได้เห็นการ ปะทะฝีมือกันด้วยลีล าของมวยไท่เก๊กที่นิ่มนวล แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ของระดับสุดยอดฝีมือจากทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่ เป็นภาพยนตร์แอ็กชั่นย้อนยุค ที่ถ่ายทอดเรื่องของ มวยไท่เก๊กออกมาได้ น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว