ผู้ก่อตั้ง ONE “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” จากเด็กไร้บ้านสู่ ประธานและผู้บริหารสูงสุดของ ONE Championship
ผู้ก่อตั้ง ONE สำหรับชื่อของ “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” นักธุรกิจลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จัก สำหรับคนไทยมากนัก เนื่องจากหากย้อนกลับไป หลังพิษเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ในช่วงปี 2540 ที่ทำให้เขาต้อง ระหกระเหินไปใช้ชีวิต ที่อเมริกาพร้อมกับ คุณแม่ชาวญี่ปุ่นและ น้องชายเนื่องจาก คุณพ่อทอดทิ้งไปแบบไม่ใยดี ความหวังเรื่องอนาคตใหม่ ที่อเมริกานั้นยากเย็นแสนเข็ญ บ่อยครั้งที่ทำให้เขา แม่และน้องชาย กอดคอกันร้องไห้ เพราะมองไม่เห็นฝั่งฝัน
จากเด็กที่ต้องดิ้นรน ไปสร้างชีวิตที่สหรัฐอเมริกา ได้กินข้าววันละหนึ่งมื้อ ก่อนจะฝ่าฟันจน ประสบความสำเร็จ เป็นนักการเงินชั้นนำ ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท แต่เงินไม่ได้ทำให้ หัวใจของเขาอิ่ม ชาตรีจึงตัดสินใจ หันหลังให้วอลล์สตรีท แล้วมุ่งหน้าทำธุรกิจเกี่ยวกับ ศิลปะป้องกันตัว พร้อมคำปรามาสว่า
นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดครั้งใหญ่ จากการดิ้นรนที่ผ่าน ความยากลำบากจน สามารถประสบความสำเร็จ ด้วยความมุ่งมั่น อันเต็มเปี่ยมของเขา นี่คือเรื่องราวที่จะ ทำให้คุณรู้จักผู้ชายที่ชื่อว่า “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” มากยิ่งขึ้น ชาตรี ศิษย์ยอดธง มีวิชามวยไทย และบราซิเลียน ยูยิตสู สายม่วง และสิ่งที่ทำให้
“ชาตรี ศิษย์ยอดธง” แตกต่างจากผู้บริหารคนอื่นๆ ONE จ่ายค่าตัวหลักล้าน ในอุตสาหกรรม ศิลปะการต่อสู้ก็คือ เขาผ่านจุดที่เป็นนักกีฬามาก่อน และเขาก็ภาคภูมิใจ ในตัวเองอย่างมาก ชาตรีรู้จักมวยไทย มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ก่อนได้ฝึกวิชาใน ค่ายดังของประเทศอย่าง ศิษย์ยอดธง เขาผ่านเวทีระดับอาชีพ และยังคงลงนวม
ซ้อมอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงทุกวันนี้ ถ้านับตั้งแต่จุดเริ่มต้น ก็ล่วงเลยมามากกว่า 30 ปีเลยทีเดียว แต่ด้วยเพราะหัวใจที่เป็นนักสู้ ที่เขาบอกว่าซึมซับ จากการหัดเล่น “มวยไทย” ที่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนปัจจุบันเขาได้กลายเป็น เจ้าของธุรกิจ “อีโวลฟ์ MMA (Evolve Mixed Martial Arts)” และผู้ก่อตั้งรายการกีฬา “ONE Championship” ที่มีคนดูการถ่ายทอดสด เยอะที่สุดของเอเชีย
ผู้ก่อตั้ง ONE Championship ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านแห่งศิลปะการต่อสู้ระดับโลก !
เพราะนี่คือองค์กรกีฬา ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย “ONE Championship” (วัน แชมเปียนชิพ) เป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่เปิดโอกาสให้เหล่านักกีฬา การต่อสู้ได้แสดงความ สามารถของตัวเอง และไต่บันไดขึ้นไปสู่ การเป็นวีรบุรุษระดับโลก เรื่องราวของพวกเขา เหล่านั้นจะได้รับการ
บันทึกและเผยแพร่สู่ผู้ชม ในแง่มุมที่สามารถ สร้างแรงบันดาลใจ ในการสู้ชีวิต ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ความมุมานะอดทน เพื่อเดินตามความฝัน ของตัวเองจนสามารถ ประสบความสำเร็จ รวมถึงความมีน้ำใจนักกีฬา การให้เกียรติคู่แข่งขัน ทั้งนอกและในสังเวียน ONE Championship ได้เผยแพร่ไปสู่ผู้ชม
มากกว่า 150 ประเทศ ด้วยฐานผู้ชมกว่า 2.7 พันล้านคนในปัจจุบัน แม้แต่มวยไทยที่ เดิมทีมีผู้คนให้ ความสนใจในวงจำกัด แต่เมื่อได้มีการ เผยแพร่ออกไปมากขึ้น ก็เท่ากับเป็นการสร้าง ชื่อเสียงให้มวยไทย และทำให้คนทั่วโลก เกิดความสนใจ ในประเทศไทย เข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทย และสนใจเรียนมวยไทยมากขึ้น อันเป็นการต่อยอด ให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง มังงะ ได้อย่างมหาศาลทีเดียว
เส้นทางเริ่มต้นของ ONE Championship เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
ด้วยความรักที่ “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” มีให้กับศิลปะป้องกันตัวนี่ละ และเอเชียก็ถือเป็น บ้านเกิดของศิลปะป้องกันตัว ที่มีอายุกว่า 5,000 ปี อย่างประเทศจีนมีกังฟู ญี่ปุ่นมีคาราเต้กับยูโด เกาหลีมีเทควันโด และไทยมีมวยไทย เป็นศิลปะประจำชาติ เขาจึงได้คิดที่จะทำ สื่อรายการกีฬาที่จะ
เชื่อมคนเอเชียให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จึงเกิดขึ้นมาเป็น ONE Championship ซึ่งไม่ง่ายเลย ในช่วงปีแรกๆ ผมกับหุ้นส่วนลงทุนไป 50 ล้านเหรียญ เพื่อจัดแข่งขันครั้งแรก ที่สิงคโปร์ในปีที่ 2-3 ก็จัดการแข่งขันเล็กๆ ในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะว่าสำหรับ นักลงทุน ลูกค้า และสถานีโทรทัศน์ไม่มีใครเอาด้วย เพราะว่ารายการแทบไม่มีเรตติ้ง แต่ก็คงจะไม่มีใครเชื่อเลยว่า ONE Championship จะประสบความสำเร็จได้
“ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ได้กล่าวไว้ว่า “แต่ผมโชคดีที่ปีต่อมา โซเชียลมีเดียเริ่มบูม ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ แล้วคอนเทนต์ของเรา ก็เป็นแบบสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญ เพราะถ้าคุณจะดูฟุตบอล หนึ่งแมตช์ใช้เวลาดู 90 นาที แต่ในขณะที่การชกมวย MMA
ใช่เวลาแค่ 2-3 นาที โซเชียลมีเดีย จึงช่วยให้รายการของเรา ซึ่งเหมาะกับเด็กรุ่นใหม่ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ถ้าสรุปเป็นตัวเลขในปีที่ 3 รายการของเรามี ยอดชมทางออนไลน์ประมาณ 300,000 วิว แต่ถึงปี 2560 เพิ่มเป็น 1,500 ล้านวิว ตัวเลขพุ่งเร็วแบบไม่น่าเชื่อ หลายคลิปเป็นไวรัล ที่ถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ”
เสน่ห์ของรายการ “วัน แชมเปียนชิพ” ที่มัดใจแฟนๆศิลปะการต่อสู้ทุกแขนง
สำหรับคนที่ ไม่ได้เป็นแฟนรายการ ก็มักที่จะนึกว่า ONE Championship เป็นบริษัทที่นำเสนอแต่ในเรื่องของ ศิลปะการป้องกันตัวอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ววัน เป็นบริษัทที่สร้าง คอนเทนต์แรงบันดาลใจ ว่าทุกคนสามารถ มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยนำเสนอเนื้อหา ผ่านนักกีฬาหลายๆคน ซึ่งเคยมีชีวิตที่
ลำบากยากจน บางคนไม่มีพ่อแม่ แต่วันนี้เขามีชีวิตที่ดี ขึ้นด้วยความพากเพียร เราต้องการสร้างฮีโร่ ที่ไม่ได้ต่อสู้กันแบบ เลือดตกยางออก แต่เป็นการต่อสู้ที่ สะท้อนจิตวิญญาณ ของชาวเอเชียที่มี ความกล้าหาญ อ่อนน้อมถ่อมตน มีความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้เป็นรายการที่ สมาชิกทุกคนในครอบครัวดูได้
บวกกับนำเสนอ ในรูปแบบของ Sport Entertainment โดยนำแสงสีและ เสียงเพลงเข้ามา เพื่อเป็นการสร้างสีสัน ให้กับรายการสนุกยิ่งขึ้น เป็นผู้ผลิตสื่อรายการกีฬาเบอร์หนึ่งของเอเชีย มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก มีบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นพันธมิตร เช่น Marvel, Universal Music, Disney ซึ่งเติบโตถึงขนาดที่ว่ารัฐบาลสิงคโปร์ ก็อยากลงทุนด้วยทำให้ “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” เป็นผู้ประกอบการไทยคนแรก ที่สร้างบริษัทสตาร์ตอัพ ให้ประสบความสำเร็จในระดับ 1,000 ล้านเหรียญ และเชื่อว่า ONE Championship จะมีโอกาสมีมูลค่าสูงถึงหลัก 4-5 หมื่นล้านเหรียญได้ ในอนาคตอย่างแน่นอน
