ประวัติ ก้าวไกล แก่นนรสิงห์ นักมวยไทยดังต่างแดน

ประวัติ ก้าวไกล แก่นนรสิงห์  

ประวัติ ก้าวไกล ชื่อเต็มชื่อ อาทิตย์ ดำขำ เป็นนักมวยไทยที่โด่งดังในต่างถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่น เขาลงแข่งขันในเค-วัน ในรุ่นไม่จำกัดน้ำหนัก ต่อให้เสียเปรียบเรื่องรูปร่างรวมทั้งน้ำหนัก แม้กระนั้นเขาก็สามารถต่อสู้กับนักมวยรุ่นใหญ่ได้อย่างไม่ด้อยกว่า

เขาเคยต่อย มวยสากล อยู่ระยะหนึ่ง ทว่าก็ไม่ค่อยได้รับการ ช่วยเหลือ และก็ส่วนมากก็เดินทางไปต่อยที่ ต่างถิ่น แถมยังเคย ชิงชนะเลิศ PABA รุ่นเวลเตอร์เวท มาสุดแต่ก็ แพ้น็อค ให้กับทาง ปาร์ค ฮวานยอง ในยกที่ 4

ดังนี้เขาเองก็เคยเข้า แข่งมวย เค-วันเวิลด์กรังปรีซ์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศเมืองโตเกียว ด้วยการเป็นนักต่อยที่อายุต่ำที่สุด ตอนวันที่ 4 ธ.ค. 2547 โดย สมญานาม คนฆ่ายักษ์ ของเขาก็ได้มาจากการที่เขา เอาชนะน็อค นักชกหมัดหนักชาว อเมริกา ที่ชื่อว่า ไมตี โม ที่มีน้ำหนังสูงถึง 280 ปอนด์ หรือ 130 กก. รวมทั้งความมีชัยเหนือนักมวยรายนี้ ก็ทำให้เขาเปลี่ยนเป็น นักมวยที่มีชื่อ และก็ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ อีกด้วย  ดูอนิเมะออนไลน์

ซึ่งทางผู้ครอบครองสมญานาม คนฆ่ายักษ์ เองก็เคยร่วมการแข่งขันชิงชัย รายการศึก วันมวยไทย นายของหวานต้ม รวมทั้งพบกับ ไซมอน มากัส ในรุ่น น้ำหนัก 80 กก. เพื่อชิงเข็มขัด สมาพันธ์มวยไทยอาชีพโลก หรือ WOMF ที่จัดขึ้นที่ห้าง เซนทรัลเวิลด์ แต่ว่าท้ายที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายแพ้ไป

ประวัติ ก้าวไกล

ตัวละครเกม K-1 กับชีวิตจริงของจอมล้มยักษ์

ผมยินดีนะ เวลาไปไหนมาไหน พบเด็กๆน้องๆมาบอกว่า ‘พี่ทราบไหม ผมใช้ผู้แสดงพี่ตลอดเลยจ๊า เวลาเล่นเกม K-1

ไม่สู้ก็ไม่มีรูชนะ  ประโยคนี้ คงจะมองเป็นเพียงแค่ คำบอกเล่างามๆ ไว้ปลอบใจจิตใจ ยามรู้สึกหมดกำลังใจ หดหู่ หรือ กำลังยอมให้กับ บททดสอบแล้วก็ปัญหา ที่เข้ามา

แต่ว่ากับเรื่องราวของ  ก้าวหน้า แก่นนรสิงห์  สมัยก่อนนักสู้ คนประเทศไทย ชีวิตของเขาเป็นเหมือนดั่ง ประโยคดังที่กล่าวถึง มาแล้วไม่มีผิด

จากนักมวยไทย ที่ไม่ได้บรรลุ ผลสำเร็จ สำหรับการต่อยบนแผ่นดิน กำเนิด เขาคว้าโอกาส ครั้งสำคัญของชีวิต สร้างการบรรลุเป้าหมาย ด้วยการครองแชมป์รุ่นเฮฟวีเวต K-1 รายการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ของประเทศญี่ปุ่น แถมยังถูกนำเอาติดอยู่แรกเตอร์ ไปสร้างเป็นตัวละคร ในเกม อีกด้วย

ในขณะที่เขาทราบดีว่า นั่นเป็นการเสี่ยง ครั้งใหญ่ชีวิต สำหรับ เพื่อการจะต้องหามน้ำหนักใหญ่โต ขึ้นไปต่อย บนเวที ที่ถ้าเกิดพลาด ขึ้นมา บางที อาจพอๆกับเขา จำเป็น ต้องได้รับบาดเจ็บหนัก ได้เลย ก้าวไกล แก่นนรสิงห์ pantip

ประวัติ ก้าวไกล แก่นนรสิงห์  เคยกลัวคู่ต่อสู้และตื่นสนาม

ผู้ชมปริมาณ 64,819 คน ข้างใน “เมืองโตเกียว โดม” สังเวียนต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ต่างอยู่อาการตกตะลึง แทบจะเชื่อว่ากับสิ่งที่มองเห็น ในกลางคืนวันที่ 2 ธ.ค. ปี 2004

เมื่อสายตาทุกคู่ ได้เป็นพยาน จังหวะที่ ก้าวไกล แก่นนรสิงห์  นักต่อยไทย ที่มีน้ำหนักไม่ถึง 80 โล กระโจนโยนหน้าแข้งเข้าเต็มใบหน้าของ “ไมตี้ โม” หรือชื่อเต็ม “ซิอาลา-โม ซิลิกา” คู่แข่งดาวดังรุ่นเฮฟวีเวตคนอเมริกันซามัว ที่มีน้ำหนักถึง 130 กก. ตกลงกองกับพื้น จนกระทั่งผู้ตัดสินยกมือให้ ก้าวไกล เป็นฝ่ายชนะน็อก

นับจากนั้น ก้าวไกล ได้รับสมญานามให้เป็น The Giant Killer (จอมล้มยักษ์) จากความเด็ดเดี่ยว มั่นคง ที่ขึ้นไปต่อยรุ่นไม่จำกัดน้ำหนัก (100 กิโลขึ้นไป) ในขณะที่เขาเป็นเพียงแต่ นักสู้ที่รูปร่างเล็กจากเมืองไทย

ผมเป็นเด็กตัวเล็ก ที่มีนิสัยขี้ขลาด ยังไม่มั่นใจในตนเอง ปราศจากความกล้า ชอบโดนเพื่อนฝูงทำร้ายอยู่เสมอ ร้องไห้กลับไปอยู่ที่บ้านทุกๆวัน”

“ผมขุ่นเคืองตนเองนะ ที่ต่อยสู้คนอื่นๆ จำต้องถูกทำร้ายบ่อยๆ ผมก็เลยอ้อนวอนให้คุณพ่อ และก็รวมทั้งคุณแม่ ช่วยพาผมไปเรียนมวยไทย ผมต้องการจะไปล้างแค้นพวกที่ชอบมารังแกผม”

คนไหนกัน จะไปมีความคิดว่า นักมวยที่มุทะลุ รวมทั้งชาญชัยมากมายสุดคนหนึ่ง จะมีพื้นเพชีวิต มาจากเด็ก ที่มีความขลาดกลัว ยังไม่มั่นใจในตนเอง รวมทั้งโดน เพื่อนฝูง ร่วมรุ่นรังควานอยู่เป็นประจำ

ยิมมวยไทย ด้านในค่ายทหาร ที่จังหวัดขอนแก่นหมายถึงสถานที่แรกที่พ่อของ หม่ำ-อาทิตย์ ดำขำ นำเขาไปฝากเรียน มวยไทย เมื่อตอนอายุ 8 ปี เพราะเหตุว่าเขามีพ่อรับราชการทหาร

แล้ว อาทิตย์ เริ่มสัญจร ออกไปต่อยตามมวยภูธร ก่อนฉายแวว ด้านหมัดมวย จนกระทั่งได้ โอกาสได้เข้ามาสู่ทาง นักมวยไทยอาชีพ ในนครหลวง

พอใช้มาฝึกหัดมวยไทย ผมรู้ตัวเองมีความกล้าหาญที่จะลงมือกระทำอะไร จากเดิมที่พวกเรากลัวไปหมด ตอนเด็กก็เคยคิด จะไปเอาคืนผู้ที่เคยทำร้ายตนเอง แต่ว่าเขาไม่ยินยอมสู้กับผม เพราะว่ารู้ดีว่าพวกเราเป็นมวยแล้ว (หัวเราะ)”

“ผมเดินทางต่อยมวยภูธรอยู่โดยประมาณ 4-5 ปี ข้างหลังจบชั้นประถมฯ แม่ให้ผมเลือกระหว่าง จะศึกษาต่อที่ สถานศึกษากีฬาขอนแก่น ที่ไปสมัครแล้ว หรือเข้าไปอยู่ในค่ายฝึกซ้อมมวยที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ผมก็เลยตกลงใจเข้าพระนคร เนื่องจากว่าต้องการบรรลุเป้าหมาย ต้องการเป็นที่รู้จัก ราวกับนักมวยรุ่นพี่ ที่เขาได้ต่อยเวทีมาตรฐาน

ชีวิตการเป็นนักมวยในเมืองกรุงของ ก้าวไกล แก่นนรสิงห์ ไม่ได้สวยงามอย่างที่เจ้าตัววาดฝันไว้ เขาไม่สามารถขึ้นชั้นไปเป็นนักชกแถวหน้าของวงการได้ เป็นได้เพียงแค่ นักมวยเกรดรอง ที่รอโปรโมเตอร์ เรียกใช้บริการ เมื่อมีนักมวยถอนตัว ค่าตัวของเขาอยู่แค่หลัก 30,000-50,000 บาทเท่านั้น

สิ่งที่ยังพอน่าใจชื้นอยู่บ้าง คือ โอกาสที่ได้บินไปชกที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง ทั้งในกติกามวยไทย และมวยสากล จากการเสนอของ เฮียม้อ – ชูเจริญ รวีอร่ามวงศ์ โปรโมเตอร์ที่พอรู้จักกับคนจัดมวยในญี่ปุ่น แม้จะไม่ใช่รายการใหญ่ระดับ K-1 ก็ตาม

จนกระทั่งวันหนึ่ง ก้าวไกล แก่นนรสิงห์ ได้รับโอกาสจาก องค์กรการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น ณ เวลานั้นอย่าง “K-1” ด้วยข้อเสนอที่ทำเอาเจ้าตัวแทบไม่อยากเชื่อ!

สิ่งที่ผมได้มาจากการชกมวย คือ ประสบการณ์ชีวิตที่คนเรียนไม่สูง ไม่จบปริญญาอย่างผม สามารถไปทำมาหากินในต่างประเทศ ได้ไปเที่ยวรอบโลก เพราะมวยไทย ผมเจอกับผู้คนหลากหลายแบบ จากหลายๆ ชาติ ได้เห็นแนวคิด มุมมอง และความกระตือรือร้นของพวกเขา ก้าวไกล แก่นนรสิงห์ ปัจจุบัน

อ่านบทความมวยอื่นๆเพิ่มเติม >> นักมวยสากลหญิงชาวไทย