ที่มาฉายานักมวยไทย ชื่อนี้ นักมวย ได้มายังไง ระบบที่ทำให้นักมวยไทยมีชื่อค่ายต่อท้าย

ที่มาฉายานักมวยไทย เคยสงสัยไหมว่าชื่อและฉายาของ นักมวยไทย ที่สุดโหดแสนฮา ที่เคยผ่านหู ผ่านตาเรามาบ้างนั้น มีที่มาที่ไปยังไง

ที่มาฉายานักมวยไทย ชื่อ นั้นเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของการดำรงชีวิตของทุกๆคน โดยการตั้งการตั้งชื่อเองนั้น ก็ไม่ต่างกับการสร้างแบรนด์ตอนแรก เนื่องจากว่าความหมายของชื่อ จะทรงพลังขึ้นก็ต่อเมื่อ มีความสำเร็จของแบรนด์ หรือบุคคลนั้นมาเป็นแรงส่ง ให้มีความโด่งดัง มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งในการแข่งขันมวยเอง นอกจากความสามารถแล้ว ชื่อที่ตรงกับบุคลิก ของนักมวยและ มีความไพเราะติดหู ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ช่วยสร้างความโด่งดัง ให้กับตัวนักมวย

ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย ที่สะท้อนอัตลักษณ์ แนวคิด และวัฒนธรรมของไทย ออกมาได้ดีที่สุด รายละเอียดต่างๆมากมาย ที่ใส่ลงไปใน มวยไทย กลายเป็นเสน่ห์ทำให้ ชาวต่างชาติ หลงใหลใน ศิลปะการต่อสู้ ที่มีความสวยงาม มากมายซ่อนอยู่ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ภายใต้การชกแบบลูกผู้ชาย

ที่ซึ่งรวมไปถึงชื่อ และฉายาของนักมวย ที่เป็นอีกหนึ่งรายละเอียด ที่ทำให้ มวยไทย มีความน่าสนใจ และแตกต่างจาก มวยชนิดอื่นๆ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว นักมวยไทย จะไม่ใช้ชื่อจริง ของตนเองมาตั้ง เพื่อเป็นชื่อในการชก แต่จะมีการตั้งชื่อ และฉายาขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ผู้ชม เซียนมวย

สามารถจดจำพวกเขา ได้อย่างง่ายๆ ขณะที่วิวัฒนการ ในการตั้งชื่อนักมวยไทย ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง ไปตามยุคตามสมัย จากอดีตที่นิยมใช้ชื่อ ที่มีความน่าเกรงขาม ดูเข้มขลัง มาถึงปัจจุบัน ที่ชื่อและ ฉายานักมวยไทย ได้ถูกนำเสนอ ในรูปแบบวาไรตี้ แบบเต็มตัว บางคนก็ใช้ชื่อแบบดุดัน บางคนใช้ชื่อแบบน่ารัก หรือบางคนใช้แบบ ติดตลกก็มีเช่นกัน มวยปล้ำหญิง WWE

ที่มาฉายานักมวยไทย

ที่มาฉายานักมวยไทย ยกตัวอย่างนักมวยชื่อดังของไทยอย่าง “ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น”

“ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย” หรือ “ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น” ที่สามารถป้องกันแชมป์โลก ได้อย่างดุดัน ด้วยการเอาชนะน็อก โรมัน กอนซาเลซ​ ในยกที่ 4 ในการป้องกันแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ของสภามวยโลก WBC ครั้งแรก แต่มีข้อสงสัยที่เกิดขึ้น จากชื่อนักมวยคือ หลายคนอาจสงสัยว่า

สื่อหลายสำนัก ได้ใช้คำท้ายชื่อศรีสะเกษว่า นครหลวงโปรโมชั่น ขณะที่ชื่อที่ HBO Boxing เลือกใช้ตอน ประกาศตัวที่สหรัฐฯ กลับใช้ชื่อ ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย แท้จริงแล้วชื่อจริง ของศรีสะเกษคือ วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก โดยมีชื่อเล่นเดิมว่า ตั้ม แต่ตอนที่เขายังเด็ก เพื่อนๆมักเรียกว่า แหลม ตามลักษณะใบหน้าของเขา

แต่ชื่อศรีสะเกษนั้น ได้จากการเดินทาง มาเข้าร่วม ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น โดยมีผู้สนับสนุนหลักคือ ศรีสุข รุ่งวิสัย สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้ช่วยสนับสนุน ทุนชิงแชมป์โลกในบ้าน ที่จังหวัดศรีสะเกษ​ จึงเริ่มต้นใช้ชื่อ ศรีสะเกษ ตามจังหวัดบ้านเกิด ตามด้วย ศ.รุ่งวิสัย ผู้สนับสนุน ก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนเป็น นครหลวงโปรโมชั่น ตามชื่อค่ายต้นสังกัด นั่นเอง

ฉายานักมวยไทย ที่ตั้งตามความเก่งกาจของตัวนักมวย มีชื่อเสียงโด่งดังมาก

ที่มาฉายานักมวยไทย

สำหรับนักชกระดับตำนานอย่าง “เพชฌฆาตหน้าหยก” สามารถ พยัคฆ์อรุณ​, “ขุนเข่าเสาโทรเลข” ดีเซลน้อย ช. ธนะสุกาญจน์ หรือ “ซ้ายทะลวงไส้” เขาทราย แกแล็คซี่ ต่างก็เป็นนักมวย ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และสร้างชื่อเสียง ในประเทศไทยด้วยฝีมือการชก แต่ชื่อ พยัคฆ์อรุณ และ กาแล็คซี่ มาจากไหน ใครเป็นคนตั้งชื่อ ให้นักมวยไทย และชื่อแบบไหน ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จากคำถามที่เกิดขึ้น

จากบทสัมภาษณ์ และได้พูดคุยกับ “เสี่ยเน้า วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์” โปรโมเตอร์ชื่อดังจาก ค่ายเพชรยินดี ถึงขั้นตอนการ ตั้งชื่อนักมวยไทย โดยเสี่ยเน้าได้เล่าว่า นักมวยไทยส่วนใหญ่ ชกอยู่ต่างจังหวัด ก่อนที่จะเดินทางเข้ามา ชกที่กรุงเทพ พอเข้ากรุงเทพ โปรโมเตอร์ก็จะดูว่า ชื่อเดิมเหมาะสมไหม ถ้าไม่เหมาะสมค่อยเปลี่ยน

“นักมวยอาจจะใช้ ชื่อตำบลหรืออำเภอ เราก็จะไม่เปลี่ยน การตั้งชื่อนักมวยจริงๆ แล้วไม่มีหลักการ อยู่ที่ว่าเพราะหรือ ไม่เพราะเท่านั้นเอง เหมือนกับการตั้งชื่อคนทั่วไป ที่ไม่มีหลักการที่แน่ชัด การตั้งชื่อจริงๆ ไม่ได้คำนึงถึงอะไรมาก”

ขณะที่ฉายาก็จะเป็น เซียนมวย สื่อมวลชน หรือคนในวงการมวย ตั้งชื่อให้ตามสไตล์ การชกหรือบุคลิกการชก อย่างเช่น “ซ้ายทะลวงไส้” ของ เขาทราย แกแล็คซี่ ซึ่งมีหมัดซ้ายที่หนักหน่วง หรือ “ขุนเข่าเสาโทรเลข” ดีเซลน้อย ช. ธนะสุกาญจน์

“เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์” บุตรชายของวิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์แห่ง สนามมวยเวทีลุมพินี ก็ยังได้เผยว่า การตั้งชื่อนักมวยนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบ ของหัวหน้าค่าย หรือหัวหน้าคณะ ซึ่งแล้วแต่ว่าชื่นชอบรูปแบบไหน โดยปัจจุบันมีการ นำชื่อคนดังนอกวงการ มาใช้เป็นชื่อนักมวยกันมากขึ้น

การพัฒนาของวงการมวย ที่ปัจจุบันได้มีการนำชื่อของผู้สนับสนุนมาตั้งฉายามากมาย

ซึ่งในปัจจุบันนี้เอง มวยไทย ก็ได้มีธุรกิจเข้ามา สนับสนุนมากมาย จนได้รับผลกระทบในการตั้งชื่อ โปรโมทกันโดย เปลี่ยนชื่อค่ายเป็น ชื่อผู้สนับสนุนแทน อย่างเช่น ไก่ย่างห้าดาวยิม หรือ กระทิงแดงยิม รวมถึงมีการเปลี่ยน ชื่อหน้าโดยตั้งเอาแบบ เสาหิน แป้งเย็นโยโกะ ยิม มังงะ ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่ ขาดความขลังของ

การตั้งชื่อไปเลย ทำให้กลายเป็น ธุรกิจแบบเต็มตัว ทั้งหัวหน้าคณะ และนักมวยต้องยอมตาม เพราะเม็ดเงินที่ไหลเข้ามา การตั้งชื่อนักมวยแบบเดิม จึงเสื่อมลงไปตามกาลเวลา ยกตัวอย่างที่มาของชื่อ ยอดมวยดัง ในสมัยก่อนที่มี ความเป็นมาจาก ผู้สนับสนุนนักมวย และค่ายมวยเช่นกัน อย่างเรื่องของการ

ตั้งชื่อนักมวย คือครูฝึกสอน ครูมวยคนแรก เวลาฝึกกันจริงๆ เขาก็จะให้ชื่อตามมงคล พอมีฝีมือดีขึ้น ก็ต้องพาเข้าไป ต่อยในเมืองกรุง ต้องไปฝากค่ายมวยใหญ่ ค่ายเหล่านี้ก็ต้อง ใส่ยี่ห้อค่ายอย่าง “โผน กิ่งเพชร” เมื่อขึ้นชกในกรุงเทพ ก็ได้ชื่อหลังว่ากิ่งเพชร ที่ตั้งขึ้นโดย นายห้างทองทศ อินทรทัต เจ้าของบริษัทเทวกรรมโอสถ ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายกิ่งเพชร

และอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ “เขาทราย แกแล็คซี่” ก็มาจากชื่อ คุณอมร อภิธนาคุณ เจ้าของภัตตาคารแกแล็คซี่ นายห้างซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ได้มีค่ายมวยแต่ได้ มอบเงินสนับสนุนให้กับ แชแม้ นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ โปรโมเตอร์ชื่อดัง จึงเป็นที่มาของชื่อหลังว่า แกแล็คซี่ นั่นเอง