ทักษะมวยสากล ทักษะเบื้องต้นของการชกมวยสากล เริ่มตั้งแต่การตั้งการ์ดมวยสากล

ทักษะมวยสากล ฝึกมวยสากลด้วยตัวเอง ได้อย่างไม่ยากเลย ไม่ว่าจะเป็น ท่ามวยสากลเบื้องต้น

ทักษะมวยสากล กีฬามวยสากลนั้น กำลังเป็นที่นิยมกัน แบบทั่วโลกโดยที่จะ แยกออกเป็นมวยสากล สมัครเล่นที่นักกีฬา เข้าแข่งขันโดยที่ ไม่หวังผลตอบแทน เป็นสินจ้างรางวัล และมวยสากลอาชีพ ที่นักมวยเข้าแข่งขัน โดยมีสินจ้างรางวัล เป็นผลตอบแทน ยึดถือเป็นอาชีพ หนึ่งในการดำรงชีวิต มวยชกอีกแบบหนึ่งคือ ใช้หมัด เข่า ศอก เท้า ในการแข่งขัน เช่น มวยไทย และมวยของชาติเพื่อนบ้าน ปัจจุบันนี้ กีฬามวยสากล เป็นประเภทกีฬาหนึ่ง

ที่มีจัดการแข่งขัน กันอย่างต่อเนื่องและ หลายระดับเช่น กีฬาโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ ในประเทศไทยเองที่ มีการจัดการแข่งขัน หลายรายการในแต่ละปี เช่น มวยสากลสมัครเล่น ในกีฬาแห่งชาติ กีฬามหาวิทยาลัย กีฬาพลศึกษา รวมไปถึงมวยสากล สมัครเล่นระดับนักเรียน

ก็มีการจัดการแข่งขันขึ้น ประกอบกับทั้ง ในอดีตและปัจจุบัน นักกีฬามวยสากล ของประเทศไทยก็ได้ ทำชื่อเสียงให้กับ ประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น มวยสากลสมัครเล่น หรือมวยสากลอาชีพ แสดงให้เห็นว่า กีฬามวสากลเป็น กีฬาประเภทหนึ่ง ที่มีความเหมาะสม ที่จะให้ฝึกกับคนไทย

และการชกมวยสากลนั้น นักมวยจะต้องมี สมรรถภาพ ทางร่างกายที่แข็งแรง สมบูรณ์รอบด้าน เช่นเดียวกับการที่จะต้อง มีทักษะสูง การต่อสู้บนเวทีจะต้อง รู้จักใช้อวัยวะ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ให้เกิดประโยชน์ เต็มไปด้วยกลเม็ดพลิกแพลง โดยที่ไม่ต้องอาศัย อาวุธหรือวัตถุอื่น เข้ามาเกี่ยวข้อง

ซึ่งสามารถนำไป ใช้ได้ในยามคับขัน หรือถูกรังแกได้อย่างฉับพลัน และนอกจากนี้ ยังเป็นวิชาบริหารกาย ให้ได้สัดส่วนที่ มีความสมบูรณ์ การฝึกมวนสากลจะต้อง คำนึงถึงทักษะเบื้องต้น สมรรถภาพทางกาย ขั้นพื้นฐานตลอดจนการ ฝึกพิเศษที่เกี่ยวกับ ร่ายกายเชิงชั้นสูง ทักษะหรือชั้นเชิง

การชกมวยสากล จะประกอบไปด้วย การป้องกันตัวและ การตอบโต้คู่ต่อสู้ การรุก ก็คือการเข้าชก ซึ่งมีวิธีต่างๆมากมาย การรับ ก็คือ การถอย การผงะ การฉาก การหลบ การปัดตลอดจนการ ตอบโต้การเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ตลอดเวลาและอยู่ใน ระยะกระชั้นชิด ดังนั้นผู้ได้รับการ ฝึกจะต้องมีความ รวดเร็วในการป้องกันตัว เพื่อไม่ให้ถูกชกง่ายๆ

ทักษะมวยสากล

ทักษะมวยสากล ประเภทของการออกหมัดในรูปแบบต่างๆ

หมัดแย๊ป หมายถึง หมัดที่ชกออกไป สุดแขนระดับไหล่ ไม่งอข้อศอก หมุนข้อมือคว่ำลง ให้สันหมัดถูกเป้าใน ลักษณะตั้งฉากกับเป้า โดยมีแรงส่งจากแรงดัน ของเท้า เอว ลำตัว ส่งน้ำหนักตัวไปที่ไหล่ ส่งต่อไปยังปลายหมัด ชกด้วยน้ำหนักทั้งหมดของร่างกาย ชกเร็วแต่ไม่เสียการทรางตัว ร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล

หมัดฮุค หมายถึง หมัดที่ชกไประยะประชิด ลักษณะเหมือนการ เหวี่ยงหมัดแต่ไม่กว้างมาก ข้อศอกงอหมุนข้อมือคว่ำลง ให้สันหมัดถูกเป้า ในลักษณะเกือบตั้งฉาก กับเป้าโดยมีแรงส่งจาก แรงเหวี่ยงของข้อเท้า เอว สะโพก ส่งน้ำหนักตัวไปที่ไหล่ แล้วส่งต่อไปยังปลายหมัด ชกด้วยน้ำหนักทั้งหมด ของร่างกายชกเร็ว แต่ไม่เสียการทรงตัว

หมัดอัปเปอร์คัต หมายถึง หมัดที่ชกในระยะประชิด จากส่วนล่างขึ้นส่วนบน งอข้อศอกหมุนข้อมือหมายไปให้ สันหมัดถูกเป้าโดยมีแรงดันของเท้า ข้อเข่า ลำตัว และก้มย่อตัวเล็กน้อย ส่งน้ำหนักตัวไปที่ไหล่ แล้วส่งต่อไปยังปลายหมัด พร้อมกับยืดตัวขึ้น ชกด้วยน้ำหนักทั้งหมด ของร่างกายชกเร็ว แต่ไม่เสียการทรงตัว

หมัดตรง หมายถึง หมัดที่ชกด้วยหมัดขวา ซึ่งมีความรุนแรงมาก วิธีชกหมัดตรงนี้ จะเริ่มจากท่ายืนตั้งการ์ด เริ่มชกโดยส่งแรงออกจาก การบิดเอวและไหล่ ส่งแรงไปยังแขนขวาโดย บิดไหล่ซ้ายไปด้านหลัง เหยียดแขน พุ่งหมัดออกไปตรงๆ สู่เป้าหมาย ให้แขนขนานกับพื้น เมื่อหมัดจะถึงเป้าหมาย บิดแขวนขวาคว่ำหมัดลง กำหมัดให้แน่น หมัดหน้าหรือหมัดซ้าย ยกสูงระดับสายตา เมื่อชกหมัดตรงออกไปแล้ว ให้พับแขนดึงหมัดกลับ ในลักษณะเดิม

หมัดชุด หมายถึง หมัดตรงซ้าย หมัดตรงขวา หมัดฮุคซ้าย หมัดฮุคขวา หมัดอัปเปอร์คัตซ้าย หมัดอัปเปอร์คัตขวา โดยนำมาผสมผสาน และชกติดต่อกันอย่างรวดเร็ว

วิธีการยืนท่าคุม ของมวยสากลจะต้องยืนอย่างไร

การยืนในท่าคุม มวยสากล ผิดจากมวยไทย การยืนของมวยสากลนั้น น้ำหนักตัวจะต้องตกบน เท้าทั้งสองเท่าๆกัน ปลายเท้าชี้ไปทางเดียวกัน ไม่กว้างหรือแคบเกินไป ลำตัวงอเล็กน้อย หมัดทั้งสองกำหลวมๆ ยกขึ้นเกือบระดับเดียวกัน หมัดซ้ายอยู่ระดับปลายคาง ยื่นไปข้างหน้าเล็กน้อย

หมัดขวาอยู่ระดับข้างแก้มตลอดเวลา ศอกทั้งสองข้างอยู่ห่าง ลำตัวประมาณข้างละ 6 นิ้ว บิดลำตัวเล็กน้อยให้ ไหล่ซ้ายกึ่งไปข้างหน้า หน้าก้ม เก็บคาง สายตามองดูประมาณ หน้าอกคู่ต่อสู้ การกำหมัดขณะการ์ด กำหลวม เมื่อปล่อยหมัดออกไป จะต้องกำแน่นและคว่ำ ให้สันหมัดถูกเป้า

การรุกและการถอย การรุกของมวยสากล มีอยู่อย่างเดียวคือ รุกเท้าตาม การสืบนำไปข่างหน้าแล้ว ลากเท้าหลังตามไป ห้ามลากเท้าหลังเข้าไปชิด เท้าหน้าเด็ดขาด สำหรับการถอยนี้มีอยู่สองอย่างคือ ถอยเท้าตามและถอยเท้าสลับ ฉากถอย การถอยเท้าตามก็เหมือนการรุก

คือ ใช้เท้าหลังถอยเสียก่อนจึง ลากเท้าหน้าถอยตาม แต่การถอยเท้าสลับ หรือฉากนั้น จะเป็นการถอยที่ใช้เท้าหลัง ก้าวไปก่อนแล้วจึงลากเท้าหน้า กลับไปอยู่ข้างหลัง พร้อมทั้งเปลี่ยนท่าคุมทันที เมื่อตั้งตัวได้จึงกลับท่าคุมที่ถนัด

ก่อนที่จะเริ่มฝึกทักษะมวยสกล ก็จะต้องอบอุ่นร่างกายก่อนทุกๆครั้ง

ซึ่งกิจกรรมการเคลื่อนไหว หรือการเคลื่อนที่ที่หนัก กว่าปกติทำให้ร่างกาย ต้องทำงานหนักขึ้น ยิ่งงานหนักขึ้นเท่าใด ยิ่งต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น ดังนั้นร่างกายต้องการ การหายใจที่เร็ว ต้องการเพิ่มอัตราการ ไหลเวียนของเลือดและ ขบวนการเมตาบอลิซึม โดยที่ร่างกายสามารถ ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

ที่เปลี่ยนไป แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ จะต้องค่อยเป็นค่อยไป และต่อเนื่องจนระบบใน ร่างกายปรับตัวได้ในที่สุด ร่างกายจะทำงานได้ประสิทธิภาพ และราบรื่นถ้าไม่ต้องออกแรง เกิดขีดจำกัดในการเคลื่อนไหว หรือการเคลื่อนที่ของร่างกาย บางครั้งใช้ปฏิกิริยาอัตโนมัติ โดยที่เราไม่รู้ตัวแต่ปฏิกิริยา

อัตโนมัตินี้อาจใช้การไม่ได้ถ้า ร่างกายเกิดต้องออกกำลังกาย หนักในทันทีเพื่อที่ จะให้ระบบการทำงาน ของร่างกายปฏิบัติงาน ได้ดีเคลื่อนไหวได้ถูกต้อง จำเป็นต้องมีปัจจัยสำคัญ ถ้าก่อนออกกำลังกาย หรือการแข่งขัน เราวิ่งหรือเล่นยิมนาสติก จะทำให้อัตราการหายใจ และการไหลเวียนเลือดเพิ่มขึ้น

ทำให้เลือดไหลไปสู่กล้ามเนื้อ ถ้ากล้ามเนื้อบริเวณ ที่ออกกำลังได้รับเลือดเลี้ยงเพียงพอ การฉีกขาดของกล้ามเนื้อ ข้อเท้าพลิกข้อเท้าแพลง เนื่องจากการเคลื่อนไหวหรือ การเคลื่อนที่ที่ไม่คาดคิด ก็จะลดโอกาสที่จะเกิดขึ้น ถ้าเราไม่เปิดโอกาส ให้ร่างกายได้ปรับตัว กับสภาวะเครียดที่เกิดขึ้น จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดบาดเจ็บ ได้เนื่องจากเลือด ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่พอจึงอ่อนล้าได้ง่าย การอบอุ่นร่างกาย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการฝึกมวยสากล

อ่ายบทความมวยเพิ่มเติม >> เสน่ห์ศิลปะมวยไทย

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารมวยสากลทั้งหมดจาก : ดูบอล123 UFABET