จอร์จิโอ เปโตรเซียน จากชีวิตที่ติดลบ มาสู่การเป็น นักชกคิกบ็อกซิ่งเก่งกาจที่สุดตลอดกาล
จอร์จิโอ เปโตรเซียน สุดยอดนักชกคิกบ็อกซิ่ง ชาวอิตาเลียน หนึ่งในแชมป์โลก คิกบ็อกซิ่งหลายสมัย หนึ่งยอดนักมวยคิกบ็อกซิ่ง ที่แข็งแกร่งและ ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาประสบความสำเร็จ อย่างยิ่งใหญ่และน่าจดจำ มาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน รวมไปถึงการเป็นแชมป์ K-1 World MAX, แชมป์ Glory Slam Tournament และอีกมากมาย แต่กว่าที่เขาจะเดินทาง มาถึงจุดสูงสุด เปโตรเซียน ผ่านความยากลำบาก โดยเริ่มจากต้นทุนชีวิตติดลบ หนีสงครามในประเทศบ้านเกิด
ต้องนอนตามข้างถนน จนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เขาจะมีวันนี้ได้ เปโตรเซียน เกิดที่ประเทศอาร์เมเนีย เมื่อ 10 ธันวาคม 2528 แต่ด้วยปัญหาสงคราม ภายในประเทศ ทำให้ครอบครัวของเขา ต้องอพยพหลบหนี เพื่อเอาชีวิตรอด โดยไปอาศัยอยู่ที่ ประเทศอิตาลีในฐานะผู้ลี้ภัย เมื่อปี 2542
ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุ 13 ปี การไปอยู่ที่อิตาลีแบบผู้อพยพ เปรียบเสมือนชีวิตติดลบ ไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องซุกหัวนอน ตามสถานีรถไฟบ้าง ข้างถนนบ้างช่วงเวลานั้น เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่า อนาคตจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตหรือเปล่า โชคดีที่ยังมีองค์กรการกุศล ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
ทำให้เขาและครอบครัวมีงานทำ ค่อยๆสร้างหลักปักฐาน และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หนุ่มน้อย เปโตรเซียน เป็นแฟนตัวยงของ ภาพยนตร์การต่อสู้ มีไอดอลคือ “บรูซ ลี” และ “ฌอง-คล็อด แวนแดมม์” เขาต้องการเก่งเหมือน ฮีโร่ยอดนักสู้ เขาสนใจเรียน คิกบ็อกซิ่ง แต่การหายิมในเมืองกอริเซีย
ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในอิตาลี ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งได้เผยว่า “ตอนสมัยที่ผมอาศัย อยู่บ้านพักของศูนย์บรรเทาทุกข์ พ่อบอกผมว่า ระหว่างนี้เราต้องฝึกกันเองไปก่อน และพ่อจะพยายามหายิมให้ พวกเราพันหมอน ไว้กับเสาบาสเก็ตบอล ใช้ซ้อมเตะซ้อมต่อยเป็นประจำ จนกระทั่งพ่อหาที่เรียนได้ โดยเริ่มแรกผมเรียน มวยไทย เมื่อสมัยอายุ 14 ปี”
ที่มาของฉายา “The Doctor” จอร์จิโอ เปโตรเซียน
“จอร์จิโอ เปโตรเซียน” จากที่เรียนมวยไทยมาได้ราว 2 ปี ก็ได้ก้าวขึ้นสังเวียนครั้งแรก ตอนอายุ 16 ปี และเริ่มตระเวนเดินสาย ชกมวยไทย เป็นอาชีพควบคู่ไปกับการ เป็นคนงานก่ออิฐสร้างบ้าน ในปี 2547 เปโตรเซียน ได้ขึ้นชกกับ นักมวยชาวฝรั่งเศส และน็อกคู่ต่อสู้ได้ ในตั้งแต่ยกแรก
ด้วยการเตะตัดขา 4 ครั้ง กรรมการคนหนึ่ง พิจารณาดูภาพถ่ายก็พบว่า การเตะทั้ง 4 ครั้ง ถึงแม้มันจะดูเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วมันไม่เหมือนกันเลย “ตั้งแต่การชกครั้งนั้นเป็นต้นมา ผมก็ได้รับฉายาว่า “The Surgeon (ศัลยแพทย์)” เพราะมันเหมือนเป็นการ เตะเพียงครั้งเดียว แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นการเตะ 4 ครั้ง
แต่ย้ำลงไปที่จุดเดิม ระยะเดิม และเทคนิคเดิม และจากฉายา The Surgeon ก็กลายมาเป็น “The Doctor (คุณหมอ)” เพื่อต้องการสื่อว่า ผมมีความแม่นยำและเฉียบขาดในการออกอาวุธ ซึ่งผมใช้ฉายานี้ มาตลอดจนปัจจุบัน”
ความแม่นยำในการ ออกอาวุธเป็นสิ่งที่ สำคัญสำหรับนักสู้ เพราะมันไม่มีคำว่า ฟลุก บนสังเวียน เช่นเดียวกับหมอ ที่ต้องรักษาคนไข้ หมอจึงมีความเชี่ยวชาญ ในเครื่องไม้เครื่องมือ และสามารถแก้ไข สถานการณ์เฉพาะหน้า ได้อย่างทันท่วงที การชกบนเวทีก็เหมือนกัน
การต่อสู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว มาบนเส้นทางนักสู้กว่าร้อยไฟต์
เปโตรเซียน โดยคว้าชัยชนะมาได้ถึง 95% ทำให้เขาได้รับการ ยกย่องว่าเป็น นักชกที่เก่งกาจ ที่สุดตลอดกาล มีคู่แข่งที่กำราบเขา ได้เพียงไม่กี่คน ที่แฟนหมัดมวยชาวไทย คงคุ้นเคยเป็นอย่างดี จากการที่เขาผ่าน นักมวยไทย มาหลายคนรวมถึง ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการมวยอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ”
ตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ ป.ประมุข เดิม หลังจากตระเวน สร้างชื่อและคว้าชัยชนะ ในการแข่งขันมวยไทย ในเวทีต่างๆทั่วยุโรป เปโตรเซียน ตัดสินใจหันมา ชกคิกบ็อกซิ่ง ที่ตนเองชอบ และ ออกล่าฝันการเป็น นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งระดับโลก จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ในการคว้าแชมป์ K-1 World MAX
แชมป์ Glory Slam Tournament เปโตรเซียน เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ ในวงการคิกบ็อกซิ่ง ระดับโลกด้วย ฟอร์มการชกอันยอดเยี่ยม โดยสร้างสถิติอันน่าเหลือเชื่อ ด้วยชัยชนะกว่าร้อยไฟต์ โดยเป็นความพ่ายแพ้เพียง 2 ครั้งในชีวิต เสมอ 2 ไม่มีผลการตัดสิน 2 จนทั่วโลกยกย่อง ให้เขาเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่ง
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล “ผมพยายามเปลี่ยน สไตล์การชก ของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางได้ แต่ย้ำอีกครั้งว่า ถ้าเรามีความเร็วและ ทักษะการต่อสู้ที่ดี มันจะเป็นข้อได้เปรียบมาก ผมเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้ ตอนที่ผมเริ่มชกมวยไทย และเมื่อผมได้ชก K-1 ผมก็ต้องเปลี่ยนสไตล์ มาเป็นคิกบ็อกซิ่ง”
ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ องค์กรศิลปะการต่อสู้ ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง ONE Championship
หลังกวาดแชมป์ระดับโลก มาอย่างมากมาย เปโตรเซียน ได้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่ชายคา องค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ONE Championship เพื่อสานต่อความสำเร็จ ในระดับโลกในฐานะ นักกีฬาชุด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง) ในปี 2561 เขาเปิดตัวอย่างงดงาม ด้วยการเอาชนะ “โจ ณัฐวุฒิ”
ตามด้วย “เซราะกราว เพชรยินดีอะคาเดมี” ก่อนเข้าสู่การแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต และทะลวงด่านคู่แข่งอย่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” และภาคสองกับ “โจ ณัฐวุฒิ” ที่คราวนี้เขาเอาถึงน็อก ก่อนจะไปถึงรอบสุดท้าย กับนักมวยฝรั่งเศส “เซมี ซานา”
และคว้าเข็มขัดแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ โกยเงินรางวัลไปได้กว่า 31 ล้านบาท เจ้าของฉายา “The Doctor” ก็ขับเคลื่อนโลก แห่งการต่อสู้ให้ลุกเป็นไฟ ด้วยการสร้างสถิติอันน่าเหลือเชื่อ ชนะ 42 ไฟต์ติดต่อกัน ภายในระยะเวลา 6 ปี
ข่าวสารเพิ่มเติม : นักมวยไทยในเกม ดูบอล แทงบอลโลก