คนดังวงการมวย “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ผู้ก่อตั้ง “ค่ายมวยเพชรยินดี”

คนดังวงการมวย “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์จัดการแข่งขันมวยไทย เป็นที่รู้จักทั้งวงการ

คนดังวงการมวย “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ตำนานโปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี นักธุรกิจชื่อดังในแวดวงการกีฬาโดยเฉพาะ กีฬามวยไทยอาชีพ และ มวยสากลอาชีพ ในรอบทศวรรษที่ผ่านมานี้ ถือว่าเป็นบุคคลที่ว่ากันว่าประสบความสำเร็จด้วยดีตลอดมา ก็คงจะไม่มีใครปฏิเสธชื่อของ นายวิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ หรือที่คนสังคมมวยเรียกกันติดปากว่า “เสี่ยเน้า” โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี

ตลอดหลายสิบปีเสี่ยเน้าบริหารงานดำเนินการทำธุรกิจวงการ มวยไทย มวยสากลอาชีพ ชนิดที่เรียกว่าเป็นมือโปร หรือว่ามืออาชีพอย่างแท้จริง เรียกว่าเหมือนกับบุคคลคนนี้จบปริญญาเอกจากการบริหาร ที่เพียงไม่กี่ปีสามารถไต่เต้าจากก่อตั้งจากบริษัทเล็กๆจนกลายเป็นบริษัทใหญ่ ที่ติดต่อธุรกิจมวยโลกกับนานาชาติมาจนถึงทุกวันนี้ โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี

บอกเลยว่าในยุคนี้พ.ศ.นี้ หากจะเอ่ยถึงชื่อ “เสี่ยเน้าวิรัตน์” โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี เป็นคนที่ในสังคมมวยรู้จักกันดี ในฐานะที่เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันมวยไทยที่สนามมวยเวทีลุมพินี และโปรโมเตอร์จัดแข่งขันศึกมวยโลกที่มีโปรแกรมการแข่งขันต่อเนื่องตลอดปี ซึ่งไม่เพียงแต่รู้จักกันเฉพาะสังคมคนมวยเท่านั้น เเวดวงการอื่นๆในเมืองไทยต่างก็รู้จักชื่อเสียงเรียงนามนี้เป็นอย่างดีเยี่ยม และแม้แต่หลายๆประเทศก็ยังเป็นที่รู้จักด้วย

เส้นทางเข้าวงการมวยของ “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ นักธุรกิจมวยในตำนาน คนดังวงการมวย

ในวงการมวยเรีกได้ว่า “เสี่ยเน้าเพชรยินดี” โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี นั้นนับว่าเป็นบุคคลที่ใจกว้าง รักพวกพ้อง ซึ่งในตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นเขาชื่นชอบการได้เสียอย่างมาก และเมื่ออายุเพียง 20 ปีกว่าๆก็กระโดดเข้าวงการมวยแบบใจรัก เป็นสุภาพบุรุษเลือดนักสู้ที่อุปนิสัยรักการได้เสีย และเป็นที่รักของพรรคพวกเพื่อนฝูง โดยเฉพาะในแวดวงการมวยช่วงวัยหนุ่มนั้นเขาเริ่มต้นจากการเป็น เซียนมวย เข้าออกสนามมวยลุมพินี เวทีมวยราชดำเนิน แบบเป็นว่าเล่นแทบทุกคืน

ทำให้ 2 ประสบการณ์จุดนี้เองที่สั่งสมจดจำมวยได้มั่น เลยฝังอยู่ในสายเลือด รักชอบกีฬามวยไทยมาตั้งแต่บัดนั้น แม้ว่าจะอยู่ในช่วงวัยเรียน แถมฐานะทางบ้านนั้นถือว่าเป็นคนบุคคลที่เกิดมาจากตระกูลที่มีฐานะดีก็ตาม เพราะคลุกคลีอยู่กับวงการมวยไทยมากนี้เอง

พร้อมกับมีเพื่อนฝูงเยอะเลยเริ่มต้นก่อตั้งค่ายมวยขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.2518 ใช้ชื่อค่ายว่า “เพชรยินดี” ซึ่งนักมวยไทยชื่อดังที่สามารถไต่เต้าเป็นถึงแชมเปี้ยนเวทีมาตรฐานเมืองไทยก็มีมากมายอย่างเช่น เริงศักดิ์, สกัดทอง, จอมไตร, ยอดเพชร เพชรยินดี

และยังไม่รวมกับมวยในเครือข่ายที่ซ้อมอยู่กับค่ายที่สร้างชื่ออีกหลายต่อหลายคน และปัจจุบันนี้ค่ายมวยเพชรยินดีก็ยังไม่จางหายไปจากสังคมมวยเลยแม้แต่น้อย นักมวยที่ยังเป็นแชมเปี้ยนเวทีนี้ในเวลานั้นก็คือ “ไอ้หนูคอมพิวเตอร์” ยอดแสนไกล เพชรยินดี

จากที่มีค่ายมวยและทำมวยจนเป็นที่ยอมรับของแฟนมวยนี่เอง และในปีพ.ศ.2525 ทางสนามมวยลุมพินีได้มอบตราตั้ง แต่งตั้งให้ “เสี่ยเน้า” ให้เป็นโปรโมเตอร์ประจำของสนามมวยลุมพินี โดยใช้ชื่อรายการว่า “ศึกเพชรยินดี” มาตั้งแต่ตอนนั้นด้วยสโลแกนว่า “ศึกเพชรยินดี มวยดี ที่พิสูจน์ได้” และยังใช้ได้มาจนวันนี้และในช่วงปี พ.ศ. 2534-2536 ถือว่าเป็นยุคที่เศรษฐกิจประเทศไทยกำลังเฟื่องฟูเอามากๆ ค่าเงินบาทยังไม่ลอยตัวเหมือนทุกวันนี้ทาง

“เสี่ยเน้าเพชรยินดี” ในเวลานั้นนอกเหนือจากประสบความสำเร็จเรื่องมวยไทยที่จัดรายการ “เพชรยินดี” แล้วเก็บเงินได้เกิน 2 ล้านบาทเป็นว่าเล่นแถมเวลานั้นก็ยังมีนักชกมวยไทย มวยสากลสมัครเล่นในนามทีมชาติอย่าง “ฉัตรชัย สาสะกุล” ที่ถือว่าเป็นมวย 2 แบบที่อัจฉริยะเอามากๆอยู่ด้วย

ประวัติของ “เสี่ยเน้าเพชรยินดี” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ตำนานของเพชรยินดี

วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์หรือ“เสี่ยเน้า” ประธานบริษัท เพชรยินดี บ๊อกซิ่งโปรโมชั่นจำกัด เสี่ยเน้าเกิดวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2489 ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนที่กรุงเทพมหานคร โดยที่มีกิจการในครอบครัวคือการจำหน่ายอัญมณีจำพวกทองและเพชร ฐานะของครอบครัวจัดว่าอยู่ในขั้นดีเลยทีเดียว

นายวิรัตน์เข้าสู่วงการมวยด้วยอายุ 20 กว่าๆในวัยเรียน ด้วยการเข้าไปเล่นพนันมวยในเวทีมวยราชดำเนินและเวทีมวยลุมพินี ทำให้รู้จักบุคคลในวงการมากมาย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2520 ได้ตั้งค่ายมวยของตนเองขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชื่อ “ค่ายเพชรยินดี” มีนักมวยไทยในสังกัดที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็น ยอดแสนไกล ในและปีพ.ศ. 2520 เวทีมวยลุมพินีได้แต่งตั้งให้เสี่ยเน้ามาเป็นโปรโมเตอร์ประจำสนาม โดยใช้ชื่อรายการของตนเองว่า “ศึกเพชรยินดี” มาจนถึงปัจจุบัน

และในปี พ.ศ. 2537 ได้ก่อตั้งบริษัทธุรกิจมวยของตนเองขึ้นมาในชื่อ “เพชรยินดี บ๊อกซิ่งโปรโมชั่น” (Diamond Boxing Promotion) และเป็นผู้จัดการแข่งขันมวยไทยรายการใหญ่ รวมทั้งเป็นผู้จัดมวยคู่เอกอย่างเช่นการแข่งขันของ สามเอ ไก่ย่างห้าดาวยิม ในเส้นทางของมวยสากล

นายวิรัตน์ก็มีนักมวยที่ประสบความสำเร็จได้แชมป์โลกและมีชื่อเสียงมากมายในสังกัดไม่ว่าจะเป็น ฉัตรชัย อีลิทยิม, แซมซั่น กระทิงแดงยิม, เม็ดเงิน กระทิงแดงยิม, พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม, โอเล่ห์ดง กระทิงแดงยิม นอกจากธุรกิจมวยแล้วนายวิรัตน์ยังมีธุรกิจประเภทอื่นอีก โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี

อย่างการค้าทองคำซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวแต่ดั้งเดิมอยู่แล้ว ธุรกิจสปอร์ตคอมเพล็กซ์ในชื่อ “อีลิท สปอร์ตคอมเพล็กซ์” ซึ่งในชีวิตส่วนตัวนายวิรัตน์ก็มีชื่อเล่นที่นิยมเรียกกันในหมู่สื่อมวลชนและบุคคลในวงการมวยว่า “เสี่ยเน้าเพชรยินดี” ชีวิตครอบครัวได้สมรสกับนางภาวิณี วชิรรัตนวงศ์ มีบุตร 2 คน ก็คือนายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์,นายฐานิต และในปัจจุบันก็มีนายณัฐเดชลูกชายคนโต และนายปิยะรัตน์ หลานชายเป็นผู้สืบทอดกิจการมวยค่ายเพชรยินดี

นอกจากเป็นผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดีแล้ว ยังเป็นผู้เผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้ทั่วโลกได้รู้จัก

โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี ที่ไม่เพียงแต่จัดมวยไทยศึกเพชรยินดีอยู่ที่เวทีลุมพินีเท่านั้น ยังมีในด้านการส่งเสริมมวยไทย ศิลปะการต่อสู้ประจำชาตินั้น เสี่ยเน้าเพชรยินดี โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี คนดังวงการมวย ก็มีส่วนผลักดันมวยไทยให้แพร่หลายเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติด้วย ซึ่งเคยนำคณะนักมวยไทยไปชกที่ลอสแอลเจลิส สหรัฐอเมริกา และอีกหลายๆประเทศมาบ่อยครั้งแล้ว

หลังจากที่ประสบความในแบบมวยไทยในปี พ.ศ.2535 เสี่ยเน้าเพชรยินดี ได้หันมาทำธุรกิจ มวยโลก ซึ่งสามารถสร้างเด็กไทยก้าวสู่แชมเปี้ยนโลกมาแล้วอย่าง แชมป์สภามวยโลก (WBC) และแชมป์สหพันธ์มวยโลก (WBF) “แชมป์โลกมหาชน” ทำให้กำปั้นชาวไทย แซมซั่น กระทิงแดงยิม มีชื่อเสียงกระฉ่อนเป็นที่รู้จักของคอมวยทั้งในและนอกประเทศ

และเพื่อให้การบริหารงานมวยไปอย่างมีระเบียบและมีระบบมากขึ้น เสี่ยเน้าจดทะเบียนตั้งบริษัทเพชรยินดี บ๊อกซิ่งโปรโมชั่นจำกัด อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2537 สถานที่ตั้งบริษัท เลขที่ 488/83 อาคารโบ๊เบ๊ทาวเว่อร์ ถ.ดำรงค์รักษ์ แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. 10200

เพื่อรับผิดชอบในเรื่องมวยโลก ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ เสี่ยเน้าเพชรยินดี โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี ย่างก้าวเข้ามาในวงการได้สร้างมิติใหม่ให้กับวงการมวยและสังคมมวยมากมาย ไม่ว่ากับการสร้างแชมเปี้ยนโลก หรือสร้างยอดมวยไทยประดับวงการมากมายหลายคน คนดังวงการมวย

อีกทั้งเป็นผู้พลิกโฉมวงการมวยไทย พร้อมทั้งมวยโลกอีกมากมายเรียกได้ว่า เสี่ยเน้าเพชรยินดี ได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆสิ่งแปลกใหม่ให้กับวงการมวยไทยและต่างประเทศหลายๆอย่าง ถือว่าเป็นนักธุรกิจแกนนำให้กับสังคมมวยมากทีเดียวในยุคนี้ เป็นเจ้าของบริษัทผลิตงานมวยที่ประสบความสำเร็จหลายๆด้านเก่งครบเครื่องจริงๆ โปรโมเตอร์ผู้ก่อตั้งค่ายมวยเพชรยินดี

ผู้สานต่อค่ายมวยเพชรยินดี จากเคยเดินตามพ่อ “เสี่ยเน้า” เข้าสนามมวยมาตั้งแต่เด็กๆ

ในปัจจุบันนี้ค่ายเพชรยินดีมี คนดังวงการมวย “นายณัฐเดช” หรือ “เสี่ยโบ๊ท” ลูกชายคนโต และนายปิยะรัตน์ “เสี่ยตังค์” หลานชายเป็นผู้สืบทอดกิจการมวย นายวิรัตน์ได้เตรียมวางมือจากวงการมวยเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 โดยถ่ายโอนงานบางส่วนให้นายณัฐเดช และนายสุเมธ ซื่อสัตตบงกช ให้เป็นผู้ดูแลและได้วางมือเป็นการถาวรในวันที่ 8 ธันวาคมในปีเดียวกัน

โดยได้จัดรายการมวยใหญ่นัดสุดท้ายเป็นการอำลา ซึ่งตรงกับวันสถาปนาเวทีมวยลุมพินี นับเป็นเวลากว่า 38 ปี ที่ได้มีบทบาทในวงการมวย ทั้งมวยไทยและมวยสากล เสี่ยเน้าเพชรยินดี คนดังวงการมวย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างและเป็นผู้นำเรื่องการที่เป็นนักธุรกิจแกนนำให้กับสังคมมวยมากทีเดียวในยุคนี้

เป็นเจ้าของบริษัทผลิตงานมวยที่ประสบความสำเร็จหลายๆด้านที่ลงตัวที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังหาคนที่จะมาเปรียบเทียบได้ยากมากๆ สำหรับรุ่นลูกอย่าง เสี่ยโบ๊ท ที่ปัจจุบันนี้ฉายแววน่าติดตามไม่แพ้รุ่นพ่อเลย ด้วยความที่เห็นคุณพ่อทำงานเกี่ยวกับมวยไทยมาโดยตลอด จึงทำให้เกิดความชื่นชอบและตัดสินใจเจริญรอยตามด้วยการเป็นโปรโมเตอร์มวยเช่นกัน ปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักในนาม “เสี่ยโบ๊ท เพชรยินดี”

ข่าวสารเพิ่มเติม : อาการที่เกิดขึ้นกับนักมวยมืออาชีพ ดูบอล